นายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศว่า เขาพร้อมที่จะเจรจากับนายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้ทุกเมื่อ และจัดการประชุมสุดยอดเกาหลีสองฝ่าย หากการพบกันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีดีขึ้นได้ แต่นายมุนยังย้ำว่า การเจรจาจะต้องมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมเท่านั้น ไม่ใช่การเจรจาว่าจะเจรจากันต่อไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม นายมุนมองว่า การหารือกันเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติไม่สามารถแยกขาดจากการเจรจาให้ เกาหลีเหนือยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้ โดยเขามองว่าความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองเกาหลีจะทำให้เขาสามารถชักชวนเกาหลีเหนือให้เข้าร่วมโต๊ะเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี
นอกจากนี้ นายมุนยังย้ำว่า หากความสัมพันธ์ดีขึ้น และการเจรจายุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์มีความก้าวหน้า จะมีการเจรจาให้เปิดนิคมอุตสาหกรรมแกซงได้อีกครั้ง หลังจากที่เกาหลีใต้ประกาศปิดนิคมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 เพื่อตอบโต้ที่เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ รวมถึงอาจเปิดให้จัดทัวร์ท่องเที่ยวภูเขาคึมกังของเกาหลีเหนือ หลังจากที่ทัวร์นี้ถูกระงับไป เพราะนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ถูกทหารเกาหลีเหนือยิงเสียชีวิตเมื่อเดือน กรกฎาคมปี 2008 โทษฐานเดินเข้าไปพื้นที่ต้องห้าม
ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จัดการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2015 และตกลงว่าจะจัดการเจรจาเกี่ยวกับเรื่องการทหาร เพื่อลดระดับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ขณะเดียวกัน เกาหลีเหนือก็ตัดสินใจส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่เมืองพยองชางของเกาหลีใต้ ซึ่งนายมุนมองว่า เป็นก้าวแรกที่ดีสำหรับการลดความตึงเครียดระหว่างกัน
นายมุนมีเป้าหมายว่าจะเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีให้ได้ใน 5 ปีที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ก็ย้ำหลายครั้งว่า การแก้ไขปัญหานี้จะต้องเป็นไปอย่างสันติ ไม่มีการยั่วยุให้เกิดสงครามโดยเด็ดขาด ล่าสุด นายมุนยังระบุด้วยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เป็นผู้จุดประเด็นเรื่องการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติม เป็นผู้หนึ่งที่ผลักดันให้เกาหลีเหนือหวนคืนสู่กระบวนการเจรจายุติความขัดแย้ง
