นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด หัวหน้าพรรคเกียน ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของ คสช. ในการเชิญพรรคการเมืองต่างๆ เข้าหารือที่สโมสรกองทัพบกพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) ทั้งที่เวทีดังกล่าวควรเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. การเข้ามามีบทบาทของ คสช. แทนที่จะเป็นการส่งเสริมการเลือกตั้ง อาจกลายเป็นอุปสรรคแทน เพราะ คสช.กำลังเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้เล่นในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย ความพยายามของ คสช. ในการรักษาสถานะของการเป็นผู้กำหนดระเบียบและบรรยากาศทางการเมืองทั้งหมดผ่านเวทีในวันพรุ่งนี้ (7ธ.ค.) จึงยิ่งทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม

นายสมบัติ ระบุว่า เป็นวิจารณญาณและจุดยืนของแต่ละพรรคการเมืองที่จะปฏิเสธเข้าร่วมเวทีดังกล่าว แต่การปฏิเสธของพรรคการเมืองการเมืองขนาดใหญ่ ย่อมส่งผลถึงความชอบธรรมของ คสช. โดยเฉพาะการไม่ยอมรับต่อบทบาทของ คสช.ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ที่เป็นของ กกต. ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว คสช.ไม่จำเป็นต้องจัดเวทีดังกล่าว เพียงยกเลิกประกาศ คำสั่ง หรือปลดล็อกให้ฝ่ายต่างได้ทำงานอย่างเต็มที่เท่านั้น 

โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ซึ่งในช่วงของบรรยากาศการเลือกตั้งนี้ การทำหน้าที่ของสื่อมีความจำเป็น เพราะสื่อนอกจากจะมีส่วนช่วยกระตุ้นบรรยากาศการเลือกตั้งแล้ว สื่อยังมีหน้าที่ในการนำข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจในการเลือกตั้งไปสู่ประชาชน 

อย่างไรก็ตาม กำลังรอฟัง คสช.ว่าจะประกาศปลดล็อกอย่างไร ซึ่งมีความกังวลว่า การปลดล็อกที่จะเกิดขึ้น อาจไม่ใช่การปลดล็อกทั้งหมด เป็นการปลดล็อกที่มีเงื่อนไข โดยในวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) ในฐานะหัวหน้าพรรคเกียนจะเดินทางไปร่วมหารือกับ คสช.ด้วย แม้จะไม่ได้รับเชิญก็ตาม 

ด้านนายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำประเทศไทย มองว่า การที่ คสช.ร่วมประชุมกำหนดกติกากับพรรคการเมือง สะท้อนถึงความผิดปกติและความเป็นเผด็จการทหารของประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากการใช้สถานที่ที่ใช่ก่อรัฐประหารครั้งที่ผ่านมาเป็นสถานที่จัดการประชุม 

ส่วนการคลายล็อกที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น จะเป็นการคลายล็อกในระดับต่ำที่สุด คือเพียงพอที่จะให้พรรคการเมืองรณรงค์หาเสียงได้เท่านั้น แต่ประเทศไทยทั้งประเทศยังติดอยู่ในกรงขังของการริดรอนสิทธิเสรีภาพ ซึ่งเป็นความพยายามในการแยกพรรคการเมือง และประชาชนออกจากกัน ซึ่งไม่ใช่การสร้างเงื่อนไขสำหรับการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมอย่างแท้จริง