ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาลสหรัฐฯยืนยันว่าจะยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับซาอุดีอาระเบียต่อไป แม้ว่ามกุฎราชกุมารของซาอุดีอาระเบีย อาจจะอยู่เบื้องหลังการฆ่านักข่าวในสถานกงสุล

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯออกแถลงการณ์ยืนยันว่าสหรัฐฯจะยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับซาอุดีอาระเบีย แม้ว่าซาอุดีอาระเบียกำลังถูกประชาคมโลกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกรณีทรมานและสังหาร นายจามาล คาชอกกี ผู้สื่อข่าว ภายในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในนครอิสตันบูลของตุรกี โดยทรัมป์ระบุว่าซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่ทุ่มงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อช่วยสหรัฐฯต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย และเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯในการต่อสู้กับอิหร่าน นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียยังลงทุนในสหรัฐฯและเป็นลูกค้าซื้ออาวุธรายใหญ่ของสหรัฐฯด้วย หากสหรัฐฯตัดสายสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย ประเทศอย่างรัสเซียและจีนก็จะได้ผลประโยชน์ 


a002.jpg

แม้ว่าสื่อของสหรัฐฯจะรายงานว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ หรือ CIA เชื่อว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารของซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารคาชอกกี โดยทรัมป์ระบุในแถลงการณ์ว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อาจจะอยู่เบื้องหลังจริงหรือไม่จริงก็ได้ และสหรัฐฯก็อาจจะไม่รู้ความจริงทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯตั้งใจที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับซาอุดีอาระเบียต่อไปเพื่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯและประเทศพันธมิตร

นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศก็ได้แถลงการณ์สนับสนุนทรัมป์ โดยบอกว่า โลกนี้เป็นสถานที่ที่โหดร้ายและอยู่ยาก โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง จึงเป็นหน้าที่ของประธานาธิบดีกับกระทรวงต่างประเทศที่จะต้องนำนโยบายที่รับประกันความปลอดภัยของสหรัฐฯมาใช้ สหรัฐฯจึงต้องรักษาสายสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียต่อไป

การแถลงการณ์ของรัฐบาลสหรัฐฯครั้งนี้ก็ทำให้นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะทำให้โลกกลายเป็นสถานที่ที่โหดร้ายและอันตรายมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลที่สั่งทรมานและฆ่านักข่าวภายในสถานกงสุลของตัวเองในต่างประเทศ ไม่ถูกดำเนินการลงโทษใดๆ ซึ่งอาจเป็นตัวอย่างให้รัฐบาลประเทศอื่นๆก่อคดีที่อุกอาจเช่นนี้อีก