ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ยืนยันเลือกตั้งปี 62 ชัดเจนอยู่แล้ว ย้ำไม่เคยคิดที่จะเลื่อนเลือกตั้งอยู่แล้ว แต่ที่ปรับออกไปเป็นเพราะกฏหมาย พร้อมขอประชาชนเรียนรู้เหตุการณ์ในอดีตว่ากลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้อง เชื่อมโยงกลุ่มพรรคหรือนักการเมืองหรือไม่

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เตรียมชุมนุมเคลื่อนไหวในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ว่า รัฐบาลได้ชี้แจงไปอย่างชัดเจนแล้วจะมีการเลือกตั้งในปีหน้า ก.พ.2562 แต่ก็ยังจะมีการเคลื่อนไหวอยู่อีก อยากให้ไปดูว่าเป็นกลุ่มคนกลุ่มไหน ที่เป็นกลุ่มเดิม หรือกลุ่มคนใหม่ เกี่ยวข้องกับใครหรือไม่ สอดคล้องกับสิ่งพรรคการเมืองหรือนักการเมืองที่เคยพูดออกมาหรือไม่ ซึ่งก็จะเป็นกลุ่มนั้นที่สนับสนุน 

ดังนั้นอยากให้ประชาชนเรียนรู้ในอดีตที่ผ่านมา มาช่วยรัฐบาลในการแก้ปัญหา เพราะกฏหมายก็มีทุกตัว หากเกิดเหตุปานปลายก็จำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมาย แต่ใช้มากไปก็จะถูกหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมเองก็ไม่คิดว่ากำลังละเมิดสิทธิมนุษยชนผู้อื่นเช่นกัน วันนี้บ้านเมืองกำลังสงบ ทั้งการค้าขาย การท่องเที่ยวกำลังเดินหน้า และชุมนุมก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา รัฐบาลนี้ได้เอาทุกประเด็นมาแก้ปัญหาอยู่แล้ว 

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าการเลือกตั้ง เป็นขั้นตอนการสร้างประชาธิปไตย แต่ต้องคิดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อจะได้ประชาธิปไตยที่มาธรรมาภิบาลได้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นสังคมไทยต้องเปลี่ยนแปลงทางความคิด ทั้งหลักการเลือกตั้ง การเลือกคนเข้าไปเป็น ส.ส. ต้องเปลี่ยนวิธีการทั้งหมด ซึ่งตนไปบังคับใครไม่ได้ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชนทั้งหมดทุกระดับ ทั้งหมดต้องออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพื่อให้มีนักการเมืองหน้าใหม่ให้ได้ หรือนักการเมืองเดิมที่ดีให้ได้ 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ขอให้คำนึงถึงการชุมนุมเรียกร้อง เพราะบ้านเมืองกำลังไปได้ด้วยดี สงบเรียบร้อย ทั้งในประเทศและต่างประเทศก็ยอมรับ เพราะได้พูดวันเลือกตั้งอย่างชัดเจนไปแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพอใจ และขอให้ดำเนินการไปตามขั้นตอน ที่ผ่านมาตนไม่เคยคิดที่จะเลื่อนเลือกตั้งอยู่แล้ว แต่ที่ปรับเลือกตั้งออกไปเป็นเพราะกฏหมาย ส่วนสิ่งที่กังวลมากสุด คือ นโยบายที่รัฐบาลได้ทำไว้ จะสานต่อจากรัฐบาลหน้าหรือไม่ รวมถึงสิ่งที่ทำไว้แล้วจะทำต่อเนื่องในรัฐบาลชุดหน้า ทั้งจากฝ่ายค้านและรัฐบาล ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายควรเป็นกังวลมากกว่า

ประวิตร

ด้านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด เปิดเผยว่า ฝ่ายความมั่นคงได้เตรียมการรับมือตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป จึงไม่น่าไม่วิตกกังวลอะไร เนื่องจากประเมิณสถานการณ์ไว้แล้วว่าจะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง ไม่บานปลาย และไม่มีการแทรกแซงหรือผสมโรงจากฝ่ายการเมือง และกลุ่มผู้ไม่หวังดีอื่นๆ ทั้งนี้ตนเชื่อว่าแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง รู้อยู่แล้วว่าชุมนุมอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย และเคยเรียกมาพูดคุยทำความเข้าใจกับ คสช. แล้ว พร้อมยืนยันว่า ถ้าตนอยู่ไม่เกิดความวุ่นวายแน่นอน

ตอบโต้นักวิชาการวิจารณ์รัฐบาลใช้พลังดูด ยืนยันไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงนักวิชาการออกมาวิจารณ์คนในรัฐบาลไปดูด ส.ส.จึงทำให้มองว่าเป็นการทำลายปฏิรูปการเมืองและกลับไปสู่การเมืองวงจรแบบเก่า ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของนักวิชาการเองที่ออกมาทักท้วง ทั้งสื่อต่างๆ ที่ออกมา ตนก็ฟัง แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือตนรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แม้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะเคยออกมาพูดว่าเคยมีการดูดนักเมืองในลักษณะเช่นนี้มานานแล้ว ไม่ใช่ว่าตนจะยอมรับ แต่อยากให้ทุกฝ่ายไปพิจารณาว่าพอมีข่าวสารออกไป เป็นเรื่องที่นักการเมืองสมัครใจเองหรือไม่

อย่างไรก็ดีทุกครั้งเมื่อมีการเลือกตั้ง ก็จะเห็นได้ว่ามีการโยกย้ายพรรคไปอยู่พรรคโน้นพรรคนี้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เคยทำกันมาก่อน ขึ้นอยู่กับนโยบายยพรรค เห็นอนาคตหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของนักการเมือง และตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย ที่ผ่านมาตนได้ไปสอบถามพรรคการเมือง ที่มีข่าวสนับสนุนตน ว่ามีการไปเสนอผลประโยชน์ด้วยนั้น ซึ่งเรื่องตนอยู่เฉยๆ ก็มีคนติดต่อมาขอพบและหารือ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่มีการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในช่วงนี้ ทุกอย่างยังไม่ดำเนินการไปสู่ขั้นตอน เพราะยังไม่มีความชัดเจน แต่สิ่งที่ตนไม่ต้องการมากที่สุด คือ การเสนอผลประโยชน์ด้วยเงินไว้ล่วงหน้า ทั้งการไปชื้อหรือให้สัญญาว่าจะให้ตำแหน่ง ยืนยัน สื่งที่รัฐบาลทำและอยากเห็น คือ ทุกพรรคการเมืองสามารถทำงานร่วมกันได้เท่านั้น ในการที่จะเป็นรัฐบาลและฝ่ายค้าน