ไม่พบผลการค้นหา
สตาร์บัคส์ยืนยันการลดจำนวนพนักงานครั้งนี้ทำไปเพื่อเพิ่มความว่องไวในการทำงานให้ทันเทรนด์โลก ไม่ได้เป็นตัวแปรบ่งชี้ถึงศักยภาพที่ลดลงของบริษัทแต่อย่างใด

นายเควิน จอห์นสัน ซีอีโอสตาร์บัคส์ ส่งหนังสือแจ้งภายในองค์กรเมื่อวันอังคารที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงให้พนักงานทราบว่า สตาร์บัคส์จะปรับลดพนักงานทั้งหมด 350 คน เพื่อปรับให้บริษัทมีความคล่องตัวมากขึ้น

การปรับลดพนักงานครั้งนี้จะไม่กระทบกับพนักงานหน้าร้านแต่อย่างใด โดยตำแหน่งงานที่จะได้รับผลกระทบจะอยู่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ การตลาด ครีเอทีฟ ผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และ การพัฒนาหน้าร้าน นายเควินย้ำว่า การปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรที่สำคัญของสตาร์บัคส์และทำให้บริษัทสามารถแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นๆ ได้


“ทุกการตัดสินใจผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบและการตรวจทานจากผู้นำทั่วทั้งบริษัท แม้จะเป็นเรื่องลำบากใจ แต่การลดตำแหน่งงาน การปรับลำดับความสำคัญ และการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานในองค์กร คือ ผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” นายเควินกล่าวในบันทึกข้อความ


การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรส่วนหนึ่งของสตาร์บัคส์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มีการควบรวมทีมวิเคราะห์เข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้พนักงานในแต่ละฝ่ายสามารถตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในกระแสธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมตอบสนองนโยบายการตลาดดิจิทัลของบริษัท

สตาร์บัคส์มุ่งมั่นจะวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อที่บริษัทจะสามารถคิดเมนูต่างๆ ที่ดึงดูดใจลูกค้าได้มากขึ้น ล่าสุดสตาร์บัคส์เปิดตัวแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือที่ทำให้ลูกค้าสามารถสั่งเครื่องดื่มออนไลน์ได้ ไม่ได้เป็นแค่แอปพลิเคชันที่มีไว้สะสมแต้มอีกต่อไป ซึ่งการเปิดแอปพลิเคชันครั้งนี้ของสตาร์บัคส์สามารถดึงดูดผู้ใช้งานใหม่กว่า 4 ล้านคนในไตรมาสที่ผ่านมา

บริษัทยังมองไปถึงการเพิ่มบริการให้กับลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มกลับบ้าน โดยบริษัทวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนร้านแบบไดร์ฟทรู คือสามารถสั่งเครื่องดื่มได้โดยไม่ต้องลงจากรถ โดยตอนนี้กำลังมีการทดสอบระบบอยู่ที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา

แม้การลดจำนวนพนักงานครั้งนี้บริษัทจะย้ำว่าเป็นกลยุทธ์เพื่อการปรับโครงสร้างองกรณ์ให้ตอบสนองการทำธุรกิจในโลกดิจิทัลเท่านั้น แต่กรเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็สร้างความกังวลใจให้กับเหล่านักลงทุนอยู่ดี โดยหุ้นของสตาร์บัคส์ลดลงร้อยละ 0.9 ในช่วงบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา

ที่มา; WSJ, FINANCIAL TIMES

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: