นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังนายอาคิโอะ โคอิเดะ หัวหน้าที่ปรึกษาโครงการดูแลสุขภาพและการให้บริการสังคมผู้สูงอายุแบบไร้รอยต่อ กระทรวงสุขภาพแรงงานและสวัสดิการ ประเทศญี่ปุ่น เข้าเยี่ยมคารวะ ว่า ตามที่รัฐบาลไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ได้ลงนามความร่วมมือด้านวิชาการในการพัฒนาระบบบริการสำหรับผู้สูงอายุ โครงการพัฒนารูปแบบบริหารจัดการระบบบริการสุขภาพและสวัสดิการสังคมเชิงบูรณาการสำหรับผู้สูงอายุในประเทศไทย เพื่อบูรณาการจัดบริการสำหรับผู้สูงอายุ ทั้งด้านสุขภาพและสวัสดิการสังคม
รวมทั้งได้มีการลงนามความร่วมมือการดำเนินโครงการพัฒนารูปแบบบริการระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพิง และกลุ่มอายุอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้ได้ข้อเสนอเชิงนโยบายต่อรัฐบาลเรื่องการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุ 'รูปแบบบริการ' ได้รับการพัฒนาและนำไปใช้ในพื้นที่โครงการนำร่อง และมีการพัฒนา “หลักสูตรการอบรมสำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้ประสานงาน”
จากผลสำเร็จของความร่วมมือทางวิชาการดังกล่าว ทั้ง 2 ประเทศได้ร่วมมือดำเนินโครงการดูแลสุขภาพและการให้บริการสังคมผู้สูงอายุแบบไร้รอยต่อ ระยะเวลา 5 ปี (ต.ค. 2560-31 ส.ค. 2564) เพื่อให้มีรูปแบบบริการสังคมผู้สูงอายุแบบไร้รอยต่อที่เหมาะสม การพัฒนาบุคลากรเชี่ยวชาญ และข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับรัฐบาลในการจัดบริการของประเทศ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญสำรวจโรงพยาบาลในเขตต่างๆ และได้คัดเลือกพื้นที่นำร่อง 7 แห่งทุกภาค ได้แก่ จ.เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา นนทบุรี กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อพัฒนาระบบในระยะต่อไป
โดยการมีผู้จัดการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Care Manager : CM) มีส่วนช่วยให้การบริการมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ซึ่งไทยจะนำเอาองค์ความรู้ที่ได้รับจากญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศ และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เช่น ทีมหมอครอบครัว อาสาสมัครสาธารณสุขกว่าล้านคนมาเพิ่มความรู้ด้านสุขภาพให้มากขึ้น เสริมความเข้มแข็งของทีมคลินิกหมอครอบครัว (Primary Care Cluster : PCC) เพื่อการดูแลสุขภาพในชุมชน ล่าสุดไปที่ จ.เชียงราย ร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข พบว่าสามารถช่วยควบคุมโรคที่มีปัญหาจากพฤติกรรมเช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ได้เป็นอย่างดี และมีการตั้งมหาวิทยาลัยสำหรับผู้สูงอายุ ให้สามารถเลือกเรียนตามประเด็นที่สนใจ
ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562 ประกอบด้วย