ครม.เห็นชอบข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. เพื่อป้องกันการทุจริต การประมูลร้านค้าปลอดภาษี และการให้สัมปทานแก่เอกชน ของ ทอท.
วันที่ 21 เม.ย. 2563 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีศึกษาเกี่ยวกับการประมูลงานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน้าสินค้าปลอดอากร (Duty Free) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ และงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นและเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของ ทอท. โดยมีสาระสำคัญคือ
1.ข้อเสนอต่อรัฐบาล
- 1.1 ควรส่งเสริมให้มีการดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลอดอากรที่หลากหลาย โดยเฉพาะร้านค้าปลอดอากรในเมือง (Downtown Duty Free) โดยเปิดโอกาสให้มีผู้ประกอบการมากกว่า 1 ราย เป็นผู้ได้รับสัมปทาน หรือเปิดเสรีในการให้บริการจุดส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ เพื่อป้องกันการผูกขาดและเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการเพียงรายเดียว สนับสนุนให้เกิดการแข่งขันตามกลไกตลาด และเพิ่มโอกาสให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีทางเลือกในการซื้อสินค้ามากขึ้น
- 1.2 ควรมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางที่ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดอากรในเมืองและนำสินค้าดังกล่าวติดตัวไปได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปรับสินค้า ณ จุดส่งมอบสินค้าในสนามบิน
- 1.3 ควรพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนจากการจำหน่ายสินค้าจากร้านค้าปลอดอากรในเมืองให้เหมาะสมเช่นเดียวกับร้านค้าปลอดอากรในท่าอากาศยาน
2.ข้อเสนอต่อ ทอท. แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
ระยะสั้น
- ควรติดตั้งระบบรับรู้รายได้ (Point of Sale : POS) ที่ได้มาตรฐานตามที่กรมสรรพากรกำหนดและใช้ประโยชน์อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงกำหนดระยะเวลาในการติดตั้งระบบ POS ให้แล้วเสร็จไว้ในสัญญาด้วย
- ควรกำหนดแนวทางและมาตรการตรวจสอบการดำเนินงานต่างๆ ตามที่กำหนดสัญญา เช่น การแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานร่วม เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและกำกับดูแลให้เป็นไปตามสัญญา
- ควรมีกระบวนการตรวจสอบการใช้พื้นที่ ราคาสินค้า ราคาอาหาร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด
ระยะยาว เช่น
- ควรศึกษารูปแบบและระยะเวลาที่เหมาะสมในการให้สัมปทานแก่เอกชน โดยต้องวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียให้ครอบคลุมทุกด้านเพื่อนำมาวิเคราะห์ส่วนแบ่งรายได้ที่รัฐควรได้รับ และควรศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบและระยะเวลาที่เหมาะสมในการให้สัมปทานของท่าอากาศยานในต่างประเทศ ตลอดจนควรให้ความสำคัญกับการจัดทำฐานข้อมูลและเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะข้อมูลที่ผู้เข้าร่วมประมูลและประชาชนควรทราบ
- ควรพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้คะแนนคัดเลือกผู้ชนะการประมูล โดยพิจารณาปรับสัดส่วน น้ำหนักเกี่ยวกับผลประโยชน์ตอบแทนที่รัฐควรได้รับให้มากขึ้น
- ควรให้ ทอท. เป็นผู้บริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในท่าอากาศยานเอง เพื่อให้ผู้ประกอบการเช่าพื้นที่โดยตรงกับ ทอท. ซึ่งจะเป็นการเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน
- ควรแยกการจัดตั้งจุดส่งมอบสินค้า ออกจากสัญญาการบริหารกิจกรรมเชิงพาณิชย์ เพื่อป้องกันการผูกขาดและเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ได้รับสัมปทาน โดยอาจกำหนดจุดส่งมอบสินค้าในพื้นที่ของ ทอท. เอง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ สามารถใช้บริการจุดส่งมอบสินค้าได้
- ควรเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนหรือหน่วยงานมีส่วนร่วมในกระบวนการดำเนินงานและตรวจสอบ เช่น การเข้าร่วมสังเกตการณ์ในขั้นตอนการประมูลหรือจัดทำ TOR
ทั้งนี้ ทอท. ไม่ขัดข้องและหลายเรื่องได้ดำเนินการตามข้อเสนอของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้ว ดังนี้
ข้อเสนอระยะสั้น ปัจจุบัน ทอท. ได้ดำเนินการติดตั้งระบบรับรู้รายได้ POS ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ เรียบร้อยแล้ว ส่วนท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย อยู่ระหว่างดำเนินการ สำหรับกระบวนการตรวจสอบการดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญา ทอท. มีหน่วยงานภายในและสำนักงานตรวจสอบ เป็นผู้ดำเนินการ
ข้อเสนอระยะยาว โดยข้อเสนอส่วนใหญ่ ทอท. ได้นำไปใช้ในโครงการคัดเลือกผู้ประกอบการกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในช่วงที่ผ่านมาแล้ว และข้อเสนอให้มีการจัดตั้งจุดส่งมอบสินค้า แยกต่างหากจากสัญญาบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์นั้น ทาง ทอท. ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภูเก็ต และจะเริ่มดำเนินการท่าอากาศยานดอนเมืองตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. 2565 ส่วนข้อเสนอที่ยังไม่ได้ปฏิบัติ เช่น การปรับปรุงเกณฑ์การให้คะแนนในการคัดเลือก หรือให้ ทอท .พัฒนาแนวทางการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในท่าอากาศยานเอง ทอท. จะพิจารณานำข้อเสนอดังกล่าวมาปรับปรุงเป็นแนวทางในการดำเนินการต่อไป