“ผมรู้สึกโล่งใจอย่างมาก เราสร้างเจมส์ บอนด์ เพื่อการฉายในโรงภาพยนตร์ ในที่สุดเราก็มาอยู่กันตรงนี้ ผมมีความสุขที่สุดจริงๆ” แดเนียล เครก กล่าวกับสำนักข่าว Sky News 

นักแสดงนำวัย 53 ปีอย่าง ‘แดเนียล เครก’ ปรากฎตัวในลุคสุดคลาสซี่ด้วยเสื้อดินเนอร์แจ็คเก็ตหนังกลับสีชมพูเข้ม คอมพลีทลุคด้วยเชิร์ตขาวและโบว์ไทสีดำ ให้ความรู้สึกถึงความเป็น ‘สายลับบอนด์ 007’ ในลุคเวิลด์พรีเมียร์ได้เป็นอย่างดี เคียงข้างมากับทีมสร้างและนักแสดงร่วม ไปจนถึงคนดังมากมาย และ ‘บุคลากรทางการแพทย์’ ที่ตบเท้าร่วมเดินพรมแดงวันพรีเมียร์ในครั้งนี้

นอกจากนั้นก็ยังมีสมาชิกราชวงศ์อังกฤษหลายพระองค์เข้าร่วมงานรอบปฐมทัศน์เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าชายวิลเลียมและเคท ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และคามิลลา เจ้าชายแห่งเวลส์และดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ 

นอกจากจะเป็นงานฉายรอบปฐมทัศน์แล้ว ในงานนี้ยังเป็นงานเพื่อการกุศล ระดมเงินทุนให้กับ 3 หน่วยข่าวกรองหลักของสหราชอาณาจักร (Secret Intelligence Service, Security Service, และ GCHQ) ไปจนถึงอดีตสมาชิกและสมาชิกปัจจุบันของกองกำลังพิเศษสหราชอาณาจักรอีกด้วย

‘No Time To Die’ คือตอนที่ 25 ของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ และเป็นตอนสุดท้ายที่ แดเนียล เครก จะร่วมแสดงในฐานะ ‘สายลับบอนด์ 007’ 

การระบาดของโควิด-19 ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องเลื่อนฉายมาถึง 3 ครั้งจากเดิมมีกำหนดฉายในวันที่ 20 เม.ย.2563 ถูกเลื่อนไปเป็นเดือน พ.ย.2563 เดือน เม.ย. 2564 และในที่สุดก็ได้กำหนดฉายใหม่คือวันนี้ในอังกฤษ คาดจะเข้าโรงภาพยนตร์ให้แฟนๆ ชาวไทยได้รับชมในวันที่ 7 ต.ค.นี้