ไม่พบผลการค้นหา
‘เพื่อไทย’ วางพวงมาลาวันสวรรคต ร.5 ด้าน ‘ชลน่าน’ ถามประชาชนต้องการให้ ‘ประยุทธ์-ประวิตร’ แบ่งกันเป็นนายกฯ หรือไม่ เชื่อสูตรคนละครึ่งเข้าทาง ‘เพื่อไทย’ ยันยังไม่ประกาศจับมือใครก่อนเลือกตั้ง วาง 3 เงื่อนไขถ้าตั้งรัฐบาล

วันที่ 23 ต.ค. 2565 ที่พระบรมราชานุสรณ์ พระลานพระราชวังดุสิต (พระบรมรูปทรงม้า) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะร่วมวางพวงมาลาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

เพื่อไทย ชลน่าน ประเสริฐ อรุณี ลินธิภรณ์ -45F4-425B-A49E-392E9676D2DD.jpegชลน่าน เพื่อไทย -25E0-498B-9CAC-BDA39F363A8D.jpegเพื่อไทย วันปิยะมหาราช -9B10-4440-818B-52BE71515C70.jpeg

จากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการส่งไม้ต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สู่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่า ตนขอที่จะไม่แสดงความเห็นในนามของพรรคเพื่อไทย แต่ถ้ามองภาพการเมืองทั่วไปก็ถือเป็นสิ่งที่สามารถเสนอได้ แต่ต้องถามประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ ที่จะมีการส่งไม้ต่อจาก “ลุงตู่ สู่ ลุงป้อม” ผลัดกันเป็นนายกฯคนละ 2 ปี เพราะเรื่องนี้ต้องอาศัยความเห็นพ้องของประชาชน ถ้าเสนอแล้วประชาชนเลือก แสดงว่าประชาชนต้องการ 

ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองว่า ประชาชนไม่เลือกแน่นอน 8 ปีที่ผ่านมา ประชาชนเจอวิกฤตจากการบริหารของเหล่าอดีตคสช. ที่ใช้กฏหมายพิเศษแต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้ พอมาเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ยังมีสภาพเดิม เจอภาวะวิกฤตต่างๆก็ไม่สามารถออกมาได้เลย ดังนั้น จะส่งต่ออย่างไร ถ้าประชาชนไม่เลือก ก็เป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้นเอง 

“ในมุมเพื่อไทยได้ประโยชน์เลย อยากให้มีการส่งต่อแบบนี้ ประชาชนจะได้มีข้อตัดสินใจที่ชัดเจนว่าจะต้องหาทางออกและหันมาเลือกเพื่อไทย” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน ยืนยันด้วยว่า ต่อให้เป็น พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้สร้างความกังวล เพราะพรรคเพื่อไทยเราพร้อมแข่งขันกับทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าระบบจะเป็นอย่างไร ระบบที่เลวร้ายที่สุดก็ผ่านมาแล้ว หากเป็น พล.อ.ประวิตร จริง มองว่า มีข้อดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในมุมของนักการเมืองที่เข้าใจประชาชน มองเห็นสภาพปัญหา มีความเป็นมนุษย์มากกว่า และมีความเห็นอกเห็นใจที่สูงกว่า

ส่วนพรรคเพื่อไทยจะจับมือร่วมสนับสนุนหรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศชัดเจนไว้ว่า ก่อนการเลือกตั้งเราจะไม่ขอประกาศจับมือกับพรรคการเมืองใด เพราะเราเคารพประชาชน ถ้าเราประกาศจับมือกับพรรคการใด จะเสมือนการไม่เคารพประชาชนในการตัดสินใจ เป็นการนำเอาสิ่งที่เขาไม่เห็นด้วยมาบังคับหรือทำให้เขาไม่มีทางเลือก

ส่วนหลังเลือกตั้ง เมื่อผลคะแนนออกมา เราจะดูที่ความไว้วางใจของประชาชน ถ้าประชาชนไว้วางใจให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์เกิน 250 ที่นั่ง เราจะกำหนดทิศทางได้ว่าจะเลือกพรรคการเมืองใดมาร่วมทำหน้าที่รัฐบาลได้ ภายใต้ 3 เงื่อนไข คือ 1.ต้องมีอุดมการณ์การทำงานเช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย 2. เราไม่เลือกพรรคที่สนับสนุนเผด็จการหรือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ 3. การทำงานร่วมกัน ว่าจะสามารถสอดประสานกันเพื่อจัดทำนโยบายรัฐบาล แล้วจะไปด้วยกันได้หรือไม่ รวมถึงการเจรจาที่จะทำงานภายในกระทรวงต่างๆ ถ้าพรรคพลังประชารัฐมีคุณสมบัติครบเงื่อนไขก็สามารถร่วมงานได้ หรือถ้าไม่มีแคนดิเดตนายกฯเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องไปดูว่าตรงกับเงื่อนไข 3 ข้อหรือไม่

ทั้งนี้ เมื่อถามว่าแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย จะสู้ของพรรคการเมืองอื่นได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แคนดิเดตนายกฯของเราเป็นกลไกสำคัญในการที่จะบอกกับประชาชนให้ตัดสินใจเลือกเพื่อไทย โดยอาศัย 3 กลไกหลักคือ 1.นโยบาย 2.ตัวแคนดิเดตนายกฯ 3. ว่าที่ผู้สมัครฯที่อยู่ในพื้นที่ นี่คือความเข้มแข็งของเพื่อไทย เรามั่นใจว่าแคนดิเดตนายกฯเราจะตอบโจทย์ประชาชนทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจการเมือง สังคม สิ่งแวดล้อม