ไม่พบผลการค้นหา
เลขาฯ กระทรวงยุติธรรม เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่ บก.ปอท เพื่อเอาผิด 'พริษฐ์ ชิวารักษ์' หลังถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แต่ยังให้บุคคลภายนอกใช้เฟซบุ๊กยุยงปลุกปั่น

ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อม ทีมกฎหมายกรมราชทัณฑ์ เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปอท. เพื่อเอาผิดบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ "เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak" ของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำคณะราษฎร ซึ่งถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แต่ยังให้บุคคลภายนอกใช้เฟซบุ๊ก ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ส่งผลเสียหายต่อกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เพื่อให้ตำรวจ บก.ปอท. ตรวจสอบเฟซบุ๊กดังกล่าวของนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน เพราะได้โพสต์ข้อความเคลื่อนไหวทางการเมืองมาตลอดตั้งแต่ยังไม่เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กระทั่งถูกควบคุมตัวเข้าไปในเรือนจำที่มีมาตรการตรวจค้นเข้มงวด ไม่อนุญาตนำเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้าไปได้ แต่กลับพบว่ายังมีการโพสต์ข้อความจากเฟซบุ๊กดังกล่าว ทำให้สังคมเกิดความสงสัยว่านำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปได้หรือไม่


พบเคลื่อนไหวข้อความหมิ่นสถาบันฯ

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวอีกว่า ตนเคยแจ้งความที่ สน.ร่มเกล้า เพื่อตักเตือนผู้กระทำดังกล่าวเพราะสร้างความเสียหายแก่กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ กระทั่งล่าสุดวานนี้ (24 ก.พ.) เฟซบุ๊กดังกล่าวได้โพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันทำให้ประชาชนที่เทิดทูนจงรักภักดีไม่สามารถยอมทนได้ นอกจากนี้ อายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีราชทัณฑ์ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อเข้าสอบถาม นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน โดยตรงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโพสต์เฟซบุ๊กหรือไม่

ถ้ามีส่วนรู้เห็นจะกล่าวโทษร้องทุกข์เอาผิดต่อไป แต่หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะขอให้ตำรวจ ปอท. สืบสวนสอบสวนหาคนโพสต์ข้อความดังกล่าวเนื่องจากถือว่าร่วมกระทำผิด ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบว่ามีบุคคลใดเข้าเยี่ยม นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน บ้างในช่วงเวลาที่อยู่ในเรือนจำ ทั้งนี้ ถ้ามีนักกฎหมายนำข้อความมาโพสต์จะร้องไปยังสภาทนายความตรวจสอบจริยธรรมต่อไป 


ใครใช้เจ้าของบ้านก็ต้องรับผิดชอบ

"ส่วนกรณีของ ทนายอานนท์ นำภา แม้ยังมีการโพสต์ต่อเนื่องแต่ข้อความไม่รุนแรงเท่า พริษฐ์ โดยฝ่ายกฎหมายของกรมราชทัณฑ์ จะดำเนินการในส่วนของเฟซบุ๊กว่าเป็นของใครผู้นั้นก็ต้องรับผิดชอบเพราะเปรียบเสมือนบ้านให้ใครใช้เจ้าของบ้านก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการอย่างจริงจังว่าการแอบอ้างใช้เฟซบุ๊กของใครก่อความเสียหายให้กับผู้นั้น เบื้องต้นจะมีการยื่นให้ต่อ ปอท.ให้ดำเนินคดีในส่วนของโพสต์ล่าสุด และถ้าหากมีการพบการกระทำความผิดในโพสต์อื่นๆก็จะได้มีการดำเนินการยื่นดำเนินการต่อไป"

ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ เผยว่า คดีพริษฐ์ มีผู้มาแจ้งความเอาผิดคดีความมั่นคงตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตลอดตั้งแต่ยังไม่เข้าเรือนจำ ดังนั้น ปอท.จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาผู้ร่วมกระทำผิด ซึ่งจากการติดตามของ ปอท. พบว่า นายพริษฐ์ และ นายอานนท์ หลังเข้าเรือนจำก็ยังคงมีการโพสต์ข้อความอย่างต่อเนื่องแต่ไม่จำเป็นต้องเจ้าตัวโพสต์เองเพราะเครื่องมือสื่อสารสามารถโพสต์ที่ไหนก็ได้ถ้ามีรหัสผ่าน

"ส่วนกรณีผู้แชร์หรือคอมเม้นต์ข้อความจะต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะเจ้าหน้าที่ได้ติดตามอยู่ตลอดเวลาซึ่งอาจจะทำให้ตกเป็นผู้กระทำผิดด้วย จึงขอเตือนประชาชนที่โพสต์หรือแชร์อาจเข้าข่ายเป็นผู้เกี่ยวข้องการกระทำผิดกฎหมายด้วย" ผบก.ปอท. กล่าว

สำหรับข้อความดังกล่าวโพสต์เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ผ่านเพจเพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak โดยมีเนื้อหาเน้นย้ำไปที่ข้อเรียกร้องราษฎร เพื่อให้เกิดการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ และขอให้ชี้แจงการใช้กฎหมายมารตรา 112 ต่อฝ่ายเห็นต่างทางเมือง ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และจะทำให้ประเทศไทยถูกประณามหรือตำหนิติเตียนจากประชาคมโลก

อ่านเพิ่มเติม