ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงต่างประเทศตุรเคียประณามถ้อยแถลง ซึ่งระบุถึงความ “บกพร่องด้านความโปร่งใส” ที่ออกโดยคณะผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศ ในการติดตามการเลือกตั้งในตุรเคียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14 พ.ค.)

ถ้อยแถลงถึงความ “บกพร่องด้านความโปร่งใส” ในการเลือกตั้งตุรเคีย มีออกมาในการแถลงข่าว ณ กรุงอังการาเมื่อวันจันทร์ (15 พ.ค.) โดยคณะสังเกตการณ์ร่วมจากสำนักงาน OSCE เพื่อสถาบันประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน (ODIHR) สมัชชารัฐสภา OSCE (OSCE PA) และสมัชชารัฐสภาแห่งสภายุโรป (PACE)

“ผมเสียใจที่ต้องระบุว่างานของฝ่ายบริหารการเลือกตั้งบกพร่องด้านความโปร่งใส เช่นเดียวกับสื่อสาธารณะที่มีอคติอย่างท่วมท้น และการจำกัดเสรีภาพทางคำพูด” ยาน ปีเตอร์เซน เอกอัครราชทูต หัวหน้าภารกิจสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ODIHR กล่าว “กระบวนการจัดการข้อร้องเรียนในทุกระดับของการจัดการเลือกตั้งบกพร่องด้านความโปร่งใส และการตัดสินใจของคณะกรรมการการเลือกตั้งสูงสุดที่เผยแพร่โดยทั่วไป ไม่มีเหตุผลเพียงพอ” รายงานระบุ

ในวันนี้ (17 พ.ค.) กระทรวงการต่างประเทศตุรเคีย เรียกถ้อยแถลงดังกล่าวนั้นว่า “เป็นการกล่าวโทษและปรักปรำทางการเมือง” โดย “ถ้อยแถลงในรายงานอยู่นอกเหนือไปจากกระบวนการเลือกตั้ง และไม่สอดคล้องกับหลักการของการสังเกตการณ์ที่อิสระและเป็นกลาง” กระทรวงการต่างประเทศตุรเคียระบุ “อย่าลืมว่าการวิเคราะห์ทางการเมืองและความคิดเห็นที่มีอคติ จะทำลายความน่าเชื่อถือของภารกิจสังเกตการณ์การเลือกตั้งของ OSCE”

นอกเหนือจากความคิดเห็นกรณีบกพร่องด้านความโปร่งใสแล้ว ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งยังกล่าวว่า การรายงานข่าวของสื่อของรัฐ ที่มีอคติในการสำรวจความคิดเห็นยังเป็นอีกสิ่งที่น่ากังวล 

คณะผู้แทน OSCE ยังกล่าวอีกว่า พรรคการเมืองของ เรเจป ทายยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรเคีย และพันธมิตรของเขา มีความได้เปรียบเหนือพรรคฝ่ายค้านที่ต้องเผชิญกับเงื่อนไข ที่ไม่เท่าเทียมกันในการหาเสียงเลือกตั้ง

ปีเตอร์เซนกล่าวว่าการเลือกตั้งทั่วไป “ส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเรียบร้อย” แม้จะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย และคณะกรรมการการเลือกตั้งระดับสูง (YSK) ของประเทศตุรเคีย ได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ คณะผู้แทนยังกล่าวชื่นชมผู้ออกมาลงคะแนนเสียงที่มีในอัตราที่สูง โดยระบุว่าเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนถึง “จิตวิญญาณประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง”

YSK ยืนยันถึงการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีตุรเคียรอบสอง ในวันที่ 28 พ.ค. ระหว่างเออร์โดกัน และคู่แข่งจากฝ่ายค้านอย่าง เคมาล คิลิกดาโรกลู หลังจากไม่มีผู้สมัครคนใดได้รับคะแนนเลือกตั้งเกิน 50% เพื่อการชนะการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ทั้งนี้ เออร์โดกันได้รับคะแนนเสียง 49.5% นำหน้าคิลิกดาโรกลูที่ได้คะแนน 44.96%

ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา พรรค Cumhur İttifakı (พันธมิตรประชาชน) รวมถึงพรรค Adalet ve Kalkınma ของเออร์โดกัน (พรรคความยุติธรรมและการพัฒนา) ได้รับเสียงข้างมากในรัฐสภา ตามผลอย่างไม่เป็นทางการ


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2023/5/16/turkey-slams-election-observers-lack-of-transparency-comment?fbclid=IwAR0XPiyh328a38eSlFsYu2DnHpX_Y1e8heikKeoJU7cUl8JCDR9Q1mAZCsI