วันที่ 6 ก.ค. พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ว่าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เปิดเผยผ่านรายการ 'มุมการเมือง' ทาง 'ไทยพีบีเอส' ว่า เบื้องต้นได้วางกรอบเวลาวันเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ 13 ก.ค. ถ้าโหวตไม่ได้ หรือคะแนนไม่ถึง ก็จะให้เลือกรอบที่ 2 วันที่ 19 ก.ค. และรอบที่ 3 วันที่ 20 ก.ค.
พิเชษฐ์ คาดว่า 3 วันนี้ ก็น่าจะเพียงพอได้นายกรัฐมนตรีแล้ว ถ้าไม่ได้ก็จะคุยกันใหม่ โดยจะเปิดโอกาสให้ 3 ครั้งก่อน เพราะการเรียกประชุมบ่อยๆและใช้สมาชิก 750 คนก็ค่อนข้างลำบาก เวลา 3 วันก็เยอะแล้ว และอยากให้ได้ภายใน 3 วันนี้
ส่วนกรณีถ้าหากกำหนดไว้ 3 ครั้งแรกแล้วยังไม่ได้นายกรัฐมนตรี จะมีการพูดคุยกันใหม่หรือ พลิกให้พรรคเพื่อไทยมานำในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ พิเชษฐ์ ระบุว่า แล้วแต่ที่ประชุมรัฐสภา และที่ประชุม 8 พรรค ที่ต้องทำตาม MOU จะต้องจับมือกันไป ซึ่งต้องพูดคุยกันเป็นการภายในไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
พิเชษฐ์ ยอมรับว่ายังไม่ทราบจำนวนสมาชิกวุฒิสภาที่แน่ชัดว่าจะสนับสนุนโหวตให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เท่าที่พูดคุยกับ ส.ว. พบว่าแต่ละท่านมีเจตนาที่ดีที่ต้องการให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ประเทศชาติจะได้เดินหน้าได้