ไม่พบผลการค้นหา
ชาวบ้านจะนะ เมิน 'สุภรณ์' ขอให้ย้ายที่ชุมนุม ยืนยันปักหลักต่อหน้าทำเนียบฯ จนกว่ารู้ผล กร้าวต้องนับหนึ่งใหม่ โดยรัฐต้องยุตินิคมอุตสาหกรรม ที่คนพื้นที่ไม่ได้มีส่วนร่วม

เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ปักหลักชุมนุมคัดค้านนิคมอุตสาหกรรม หน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐเข้าวันที่ 4 โดยยืนยันจะปักหลักชุมนุมจนกว่าจะได้รับคำตอบที่พอใจจากผู้มีอำนาจ และวันนี้ (13 ธ.ค.) มีฝนตกลงมาต่อเนื่องตลอดช่วงบ่าย 

ขณะที่ช่วงเช้า สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตำรวจนครบาลระดับผู้บังคับบัญชา เข้าหารือกับกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น โดยต้องการให้ย้ายสถานที่ชุมนุมจากบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐมา ที่ถนนพระราม 5 เลียบคลองเปรมประชากร พร้อมรับปากจะนำเรื่องเสนอผู้มีอำนาจต่อไป แต่ชาวบ้าน ยังไม่มั่นใจ เพราะไม่มีหลักประกันใดๆ จึงคงปักหลักที่เดิมต่อไป 

โดยแต่ละวันในช่วงค่ำประมาณ 19.00 น. เป็นต้นไป จะมีการเสวนาในประเด็นต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับการอนุรักษ์ทรัพยากร, โครงการพัฒนาของรัฐที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วม รวมถึงบทบาทของหน่วยงานและบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์และโครงการพัฒนาของรัฐในจังหวัดชายแดนภาคใต้และในอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา

รุ่งเรือง ระหมันยะ แกนนำเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ยืนยันว่า ในพื้นที่อำเภอจะนะมีความพยายามจากผู้มีอำนาจ จะพัฒนาพื้นที่โดยประชาชนไม่มีส่วนร่วมซึ่งล่าสุดโครงการนิคมอุตสาหกรรมนี้ผลักดันในยุครัฐบาล คสช. โดย สนช.ก่อนหมดวาระไม่กี่วัน มีปัญหาหลักคือการเปิดเวทีรับฟังความเห็นและอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องรบมถึงการพยายามเปลี่ยนสีผังเมืองให้เป็นเขตอุตสาหกรรมได้นั้น มีข้อกังขาและผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านโครงการถูกกีดกัน และผู้มีอำนาจดึงดันที่จะผลักดันโครงการ ดังนั้น ทุกอย่างควรเริ่มนับหนึ่ง หรือ เริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด

พร้อมย้ำว่า จะปักหลักชุมนุมต่อไป ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร จนกว่าจะได้รับคำตอบที่พอใจ โดยระบุถึง 2 ข้อเรียกร้อง คือ 1) ให้ยกเลิกทุกกระบวนการที่ดำเนินการโครงการจะนะเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตทั้งหมด หรือ ยุติการผลักดันโครงการไว้ก่อน และ 2) ให้รัฐบาลจัดให้มีการศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA อย่างรอบคอบ เพื่อสร้างชุดข้อมูลทางวิชาการที่มีคุณภาพประกอบการตัดสินใจต่อแนวทางและโครงการพัฒนาในพื้นที่ต่างๆ ของภาคใต้


ภาพประกอบข่าว : เฟซบุ๊ก นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :