วันที่ 11 เม.ย. 66 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน กกต.ศูนย์ราชการ อาคาร B ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อชี้เบาะแสให้ไต่สวนและวินิจฉัย กรณีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ เขต 1 จ.กาญจนบุรี ปราศรัยหาเสียงโดยอ้างโครงการพระราชดำริในหลวง ร.9 และ ร.10 เป็นการขัดต่อข้อ 17 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 หรือไม่
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเย็นของวันที่ 6 เมษายน 2556 พรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดเวทีปราศรัยย่อยที่ลานด้านข้างปัํมน้ำมัน ปตท.ท้องที่หมู่ 6 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เพื่อช่วย ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต 1 เขต 2 และเขต 4 โดยมีแกนนำพรรคและผู้สมัคร ส.ส. มาร่วมในเวทีและร่วมปราศรัยหาเสียงกันหลายคน โดยในช่วงหนึ่งของการปราศรัยต่อหน้าประชาชนที่มาร่วมฟังปราศรัยเป็นจำนวนมากนั้น จีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต 1 ได้ขึ้นปราศรัยความตอนหนึ่งของการปราศรัย ความว่า...
“ท่าน พล.อ.ประวิตร ได้ทำโครงการในหลายโครงการเพื่อต้องการที่จะช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านมีโครงการที่จะพัฒนาลุ่มน้ำลำตะเพิน และได้มีการสร้างอ่างเก็บน้ำหลายแห่ง เช่น อ่างกะพร้อย อ่างแม่ตะกวด แม่ตะกึง อ่างห้วยป่าไร่ รวมทั้งมีการสร้างฝายและประตูระบายน้ำต่างๆ เยอะแยะไปหมด แต่ตรงนั้นยังไม่เพียงพอ” และยังกล่าวต่อไปอีกว่า “การที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 มาเปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ ซึ่งทั้งประเทศของเรามีเพียง 15 แห่งที่ได้รับโครงการนี้ แต่โครงการดังกล่าวอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีถึง 3 แห่ง คือที่อำเภอเลาขวัญ 1 แห่ง ที่อำเภอห้วยกระเจาอีก 2 แห่ง ซึ่งตรงนี้นั้นเป็นการริเริ่มในความห่วงใยของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยเข้ามาช่วยกันดูแลและสำรวจ”
คำปราศรับดังกล่าว เป็นการดึงเอาสถาบันฯมาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง อาจถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืน ข้อ 17 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและ ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 หรือไม่ ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่า “ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง”
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความมาร้องต่อ กกต. ให้ดำเนินการตามสอบสวน ไต่สวน หากพบว่าเป็นการฝ่าฝืนให้ดำเนินการเอาผิดตามครรลองของกฎหมายต่อไป