ไม่พบผลการค้นหา
'กมธ. ป.ป.ช.' โวยมหาดไทย-กรมที่ดิน ข้อมูลคลาดเคลื่อน เอาเปรียบประชาชน โยนคดีให้ชาวบ้าน เล็งซักผู้เกี่ยวข้อง

วันที่ 12 พ.ค. 2565 ที่อาคารรัฐสภา สุทา ประทีป ณ ถลาง รองประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) คนที่หนึ่ง พร้อมด้วย ธีรัจชัย  พันธุมาศ โฆษกคณะ กมธ. ร่วมกันแถลงข่าวเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในประเด็นที่ดินทำกิน 2 กรณี ดังนี้

1. ที่ดินตำบลทัพหลวง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ที่ดินดังกล่าวได้ถูกประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติทั้งตำบล ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 1174 พ.ศ. 2529 ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 จึงเห็นได้ว่าพื้นที่ดังกล่าว ไม่สามารถออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ รวมทั้งคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ป่าสงวนแห่งชาติตามกฎกระทรวง เป็นพื้นที่ป่าไม้ถาวรเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2513  

แต่บริษัท อุตสาหกรรมน้ำตาลบ้านไร่ จำกัด ซึ่งประกอบกิจการอุตสาหกรรมน้ำตาล อยู่ที่ตำบลทัพหลวง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ได้เป็นผู้ครอบครองหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 3230 เล่ม 33 ก หน้า 30 เลขที่ดิน 55 ตำบลทัพหลวง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี จำนวน 328 ไร่ โดยการรวม น.ส.3ก หลายฉบับเข้าด้วยกัน และเมื่อนำมาเทียบกับการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามกฎกระทรวงข้างต้น ดังนั้น บริษัทดังกล่าว ได้ประกอบกิจการในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จึงเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น คณะ กมธ.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนในพื้นที่ 

2. กรณีที่กระทรวงมหาดไทยและกรมที่ดิน ยังไม่มีการเพิกถอนหลักฐานที่ดินหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) เลขที่ พช.159 ผิดพลาดคลาดเคลื่อน โดยนำรังวัดออกนอกอาณาเขตที่สาธารณประโยชน์โคกตาด 1 หมื่นไร่เดิม และผิดไปจากทะเบียนที่ดินสาธารณประโยชน์ป่าโคกตาด ตามที่กระทรวงมหาดไทย ประกาศ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2469 ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบถูกตัดสินดำเนินคดี 24 ราย 

โดยในปี 2558 ได้มีการเริ่มดำเนินคดีกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวหลายราย ประชาชนบางส่วนรวบรวมพยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติของกระบวนการรังวัดที่ดิน การออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงที่ พช.159 และการเปลี่ยนเลขรหัสระวางรูปแผนที่ทางอากาศ ที่ส่งผลให้ที่ดินสาธารณะที่ประกาศหวงห้ามไว้ในปี 2469 เคลื่อนตำแหน่งมาทับที่ของประชาชน ซึ่งเป็นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตที่ดินสาธารณะตั้งแต่ต้น ทั้งนี้ คณะกมธ. ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อศึกษาข้อเท็จจริง พบว่ามีการออกโฉนดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 

ทั้งนี้ คณะ กมธ. จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับประชาชนต่อไป