วันที่ 26 เม.ย. 2565 พรรคเพื่อไทย นำโดย วิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ส.ก.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร ส.ก.เขตคันนายาว หมายเลข 5 ลงพื้นที่ตลาดอมรพันธ์ เขตคันนายาว เพื่อรับฟังปัญหาและแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ไขปัญหากับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนในตลาดอมรพันธ์
โดยประชาชนให้ความสนใจสอบถามนโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย ทั้ง กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาทต่อปี, 50 เขต 50 โรงพยาบาล, 30 บาทถึงที่หมาย, 437 สถานศึกษาพัฒนาสร้างรายได้ และ 50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์ ที่มีแนวทางในการ ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระจายความมั่งคั่งให้แก่คนกรุงเทพฯ อย่างถ้วนหน้า’ รวมถึง ‘นโยบายธนาคารประชาชน’ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่ให้พ่อค้าแม่ค้ากู้เพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพ
แม่ค้ารายหนึ่งในตลาดสดอมรพันธ์ กล่าวว่าตนเองขายของในตลาด จากเศรษฐกิจที่ซบเซา ยอดขายตอนนี้ลดลงไปกว่าครึ่ง ร้านอื่นหลายร้านอยู่ไม่ไหวก็ต้องปิดตัวไป ร้านตัวเองก็ลำบาก ทุนแพงขึ้น แต่ขายได้น้อยลง ต้องไปกู้เงินนอกระบบดอกเบี้ยราคาแพงมาทำทุนซื้อไข่มาขายซึ่งไม่รู้ว่าจะทนจ่ายดอกเบี้ยแพงไปได้อีกนานแค่ไหน
วิชาญ กล่าวว่า ปัญหาหนักอกพ่อค้าแม่ค้าวันนี้ คือปัญหาราคาต้นทุนสินค้าสูง แต่ยอดขายลดลง ร้านค้าต้องปิดกิจการปิดตัวไปจำนวนมาก พ่อค้าแม่ค้าในตลาดหลายรายต้องไปกู้เงินนอกระบบมาเสริมสภาพคล่องและใช้จ่ายดูแลครอบครัว ดังนั้น การปล่อยกู้ให้พ่อค้าแม่ค้าในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อสามารถต่ออาชีพต่อลมหายใจจึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับปากท้องของพี่น้องในวันนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเห็นถึงปัญหาดังกล่าวจึงมีนโยบายธนาคารประชาชน เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถกู้เงินไปใช้หมุนเวียนในธุรกิจในอัตราดอกเบี้ยถูก และใช้แค่คนค้ำประกันก็สามารถกู้ได้ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งให้พี่น้องได้กู้เพื่อใช้ต่อสายป่านธุรกิจในยามที่ยากลำบากนี้
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมี ‘นโยบายธนาคารประชาชน’ ซึ่งเป็นการรื้อฟื้นโครงการธนาคารประชาชนโดยธนาคารออมสิน เป็นนโยบายสมัยพรรคไทยรักไทยทำสำเร็จมาแล้ว โดยเป็นการให้โอกาสพ่อค้าแม่ค้า สามารถกู้เงินได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ใช้บุคคลค้ำประกัน ไม่ต้องใช้ทรัพย์สินค้ำประกัน เพื่อช่วยให้พ่อค้าแม่ค้ามีเงินทุนหมุนเวียนใช้จ่ายประกอบอาชีพและมีค่าใช้จ่ายในชีวิตอย่างเพียงพอ ซึ่งจากอดีตที่เคยทำสมัยไทยรักไทย เราพบว่า พ่อค้าแม่ค้ามีวินัยในการผ่อนชำระเงินจนพิสูจน์มาแล้วว่ามีหนี้เสียในอัตราที่ต่ำมาก แต่สามารถช่วยชีวิตพ่อค้าแม่ค้าให้กลับมายืนสู้ชีวิตได้จริง
ชญาดา กล่าวว่า วันนี้มาขอคะแนนเสียงจากพี่น้องที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าที่ตลาดอมรพันธ์แห่งนี้ ตนเองเคยทำงานในตำแหน่ง ส.ก.เขตคันนายาวมาตั้งแต่ปี 2555-2558 รู้จักปัญหาของพี่น้องชาวคันนายาวเป็นอย่างดี มีความตั้งใจมุ่งมั่นทำงานแก้ไขปัญหา เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพิ่มช่องทางค้าขายให้พี่น้องด้วยนโยบายของพรรคเพื่อไทยคือ กรุงเทพฯ มั่งคั่ง เพื่อคืนความอยู่ดีกินดีให้คนกรุงเทพฯ