29 ก.ค. 2565 สิริณัฐฐาพร สิงห์สมบุญ รองเลขานุการเเละโฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคเศรษฐกิจไทย เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ครั้งล่าสุด ที่ประขุมได้มีมติเห็นชอบขับเคลื่อนนโยบาย “เปลี่ยนที่ดิน คทช. เป็น ส.ป.ก. และพัฒนา ส.ป.ก.เป็นผืนแผ่นดินทองคำ” เเละจะเสนอต่อผู้บริหารพรรคเพื่อบรรจุเป็นนโยบายพรรคเเละนำเสนอประชาชนในขั้นต่อไป
"เพราะจากการลงพื้นที่หลายจังหวัดของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ พบว่าเกษตรกรได้ทำมาหากินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตป่าไม้ถาวร เป็นระยะเวลายาวนาน แต่ไม่ได้รับเอกสารสิทธิใดๆ ประมาณ 12 ล้านไร่ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และไม่สามารถประกอบกอบกิจการอื่นๆ ที่เป็นการเกื้อหหนุนเศรษฐกิจชุมชน สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้ ตลอดจนไม่ได้รับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แหล่งน้ำ ถนน คุณภาพดิน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนประกอบอาชีพ สิทธิต่างๆ ที่จะได้รับจากโครงการของรัฐ" สิริณัฐฐาพรกล่าว
สิริณัฐฐาพร กล่าวว่า พรรคเศรษฐกิจไทย จึงมีนโยบายขับเคลื่อนให้โอนที่ดินของรัฐที่ประชาชนได้เข้าถือครองทำประโยชน์ในที่ดิน โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) หรือระหว่างดำเนินการ คทช. และที่ป่าไม้ถาวรจำนวน 12 ล้านไร่ เปลี่ยนเป็นที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และจะดำเนินการพัฒนา ส.ป.ก. เป็นแผ่นดินทองคำ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรมีความมั่นคงด้านที่ดินทำกิน บนผืนดิน ส.ป.ก. สามารถประกอบกิจการอื่นๆ ที่เกื้อหนุนชุมชน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ ตลอดจนเข้าถึงบริการของภาครัฐ อาทิ แหล่งน้ำ ถนน การพัฒนาคุณภาพดิน การพัฒนาอาชีพ แหล่งเงินทุน ตลอดจนสิทธิต่างๆ ที่จะได้รับจากโครงการของรัฐ ให้มีความเท่าเทียมกับที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ทั้งแผ่นดินให้แก่เกษตรกรไทย เชื่อว่านโยบายพรรคนี้จะผลักดันให้ เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้โดยเกษตรกรสามารถใช้ ส.ป.ก. กู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และกองทุน ส.ป.ก. ของกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ได้ด้วย
“ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรค สมัยที่เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ เคยขับเคลื่อนเรื่องนี้เเต่ยังไม่สำเร็จ เเต่ครั้งนี้เชื่อว่าหากประชาชนเเละเกษตรกรได้เห็นความตั้งใจของพรรคเเละร้อยเอกธรรมนัส ในเรื่องนี้ที่จะบรรจุเป็นนโยบายพรรคในการหาเสียง หากได้รับโอกาสจากสังคม พรรคจะผลักดันนโยบายนี้ให้ลุล่วง ยืนยันว่านโยบายนี้ทำได้จริงเเละจะพลิกฟื้นชุมชนให้เข้มเเข็ง เม็ดเงินไหลเวียนเพิ่มขึ้น ประชาชนมั่งคั่งขึ้นหลายเท่า” สิริณัฐฐาพรระบุ