ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (Thailand Regional Economic Sentiment Index: RSI) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคพบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะในภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคตะวันตก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าระวังความแปรปรวนของสภาพอากาศ ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และนโยบายการค้าระหว่างประเทศ" โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 76.1 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในปีนี้ที่รัฐบาลประกาศให้เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 นอกจากนี้แนวโน้มความเชื่อมั่นในภาคเกษตรยังปรับตัวได้ดี จากความต้องการสินค้าเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้น และมาตรการสนับสนุนเกษตรกรของรัฐบาล รวมถึงมีการจัดงานกระตุ้นเศรษฐกิจและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรในบางพื้นที่ อาทิ วันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้ว ครั้งที่ 54 ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องที่ระดับ 77.5

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 75.2 สะท้อนความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว และมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจากภาครัฐและเอกชน อีกทั้งได้รับแรงสนับสนุนจากความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรม จากคำสั่งซื้อและความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับยางพารา ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก อยู่ที่ระดับ 74.4 สะท้อนความเชื่อมั่นในภาคบริการและภาคเกษตรที่มีแนวโน้มขยายตัว โดยมีปัจจัยบวกจากมาตรการส่งเสริมการบริโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ประกอบกับจะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ อาทิ มะพร้าวตาล และส้มโอ ขณะที่ความต้องการสินค้าเกษตรยังอยู่ในระดับสูง ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางอยู่ที่ระดับ 73.6 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะในภาคเกษตรและภาคบริการ เนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝน และภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง อาทิ มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 72.6 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ปรับตัวได้ดี โดยเฉพาะในภาคบริการและภาคเกษตร จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การจัดกิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยว กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์และซื้อสินค้า รวมถึงโอกาสทางการค้าชายแดนกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่ปรับตัวดีขึ้น และสภาพอากาศในช่วงฤดูฝนที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 71.7 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีจากความเชื่อมั่นในภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม จากการจัดกิจกรรมและนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะเดียวกันภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเพิ่มการผลิต เพื่อตอบสนองต่อความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคที่มากขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 68.9 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณบวกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในภาคบริการและภาคการลงทุน ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความกังวลต่อความแปรปรวนของสภาพอากาศ ซึ่งอาจส่งผลต่อกระทบต่อปริมาณผลผลิตการเกษตรและอาจเป็นข้อจำกัดในการเดินทางท่องเที่ยว ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและราคาต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนเป็นสำคัญ