นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า กรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านงดออกเสียงในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในชั้นรับหลักการนั้น เพราะทางพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นถึงความสำคัญของกระบวนการจัดทำงบประมาณ เพราะงบประมาณเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ การนำงบประมาณไปช่วยเหลือประชาชน ดังนั้นทางพรรคร่วมฝ่ายค้านจึงยอมให้หลักการของการจัดทำงบประมาณครั้งนี้ผ่าน
นอกจากนี้ในรายละเอียดของงบประมาณ ต่างๆที่อยู่ตามกระทรวง ทางคณะกรรมาธิการงบประมาณจะมีการลงลึกในรายละเอียดถึงการใช้จ่าย รวมไปถึงการปรับลดและแก้ไขในกรอบงบประมาณ และจะติดตามดูว่ารัฐบาลมีการนำข้อท้วงติงที่พรรคร่วมฝ่ายค้านที่นำเสนอไปแก้ไขหรือไม่ หากรัฐบาลไม่รับฟังหรือเกลี่ยงบประมาณใหม่เพื่อให้มีความเหมาะสมและเกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุด พร้อมดึงดันเอาตามใจรัฐบาลทางพรรคร่วมฝ่ายค้านคงรับไม่ได้คงต้องโหวตคว่ำงบประมาณในวาระ 2 และวาระ 3 อย่างแน่นอน
นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า การจัดทำงบประมาณของรัฐบาลครั้งนี้มีข้อสังเกตว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาปากท้องประชาชนในลำดับท้ายๆ แต่ให้ความสำคัญกับด้านความมั่นคงมาเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งผิดหลักการจัดทำงบประมาณ กลไกงบประมาณเป็นเพียงแค่กลไกหนึ่ง ต่อมาคือนโยบายที่จะนำไปปรับใช้ คืองบลงทุนที่จะลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระดับประเทศและระดับท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งประเทศภาพของเศรษฐกิจไทย ในปัจจุบันคือเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยดับไปหมดแล้ว ทั้งการค้า การบริโภค การส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุน
ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตย พร้อมที่จะสนับสนุนและรองรับการลงทุนต่างๆได้ ทั้งหมดนี้รัฐบาลต้องปรับแนวคิดและเร่งให้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจทำงาน พร้อมการนำงบประมาณลงไปใช้เชื่อว่าเศรษฐกิจคงจะดีขึ้น หากไม่ปรับแนวคิดเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะมีปัญหาไปอีกหลายปี