โดยปกติแล้วช่วงเวลาสำคัญของปีอย่างเทศกาลตรุษจีน ชาวจีนหลายร้อยล้านคนมักจะเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยการเดินทางทุกรูปแบบ ทั้งรถไฟ รถยนต์ และเครื่องบิน อย่างไรก็ตามในปีนี้ชาวจีนต้องผิดหวังเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันเนื่องจากรัฐบาลจีนได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะต้องมีการ ระงับการจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่จีนอีกครั้ง ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยทางสาธารณสุขท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ที่ขณะนี้ทั่วโลกมีจำนวนผู้ติดเชื้อทะลุ 106 ล้านคน และเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 2.31 ล้านราย
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจีนจึงออกประกาศให้ประชาชนงดเดินทางสำหรับทริปที่ไม่จำเป็น ซึ่งนับว่าเป็นข้อเรียกร้องที่ยากลำบากมากสำหรับประชาชนหลายล้านคน เนื่องจากประชาชนจำนวนไม่น้อยตัดสินใจทิ้งชีวิตในถิ่นกำเนิดเพื่อเดินทางเข้ามาทำงานหาเงินในนครใหญ่ เพื่อส่งเงินกลับไปให้ครอบครัวและลูกซึ่งฝากพ่อแม่เลี้ยงในชนบท การถูกสั่งห้ามเดินทางระหว่างวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน 7 วัน จึงเป็นสิ่งที่หลายคนเจ็บปวดหัวใจ เพราะนี่อาจเป็นโอกาสเดียวของปีในการเดินทางกลับบ้านไปพบครอบครัวและลูกๆ สถานการณ์นี้จึงหมายความว่าพวกเขาอาจต้องทนรอต่อไปอีกราว 12 เดือน
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนออกกฎให้ประชาชนที่ต้องการเดินทาง แสดงผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ตรวจในช่วง 7 วันก่อนการเดินทาง และ เมื่อเดินทางถึงภูมิลำเนาหรือที่หมายแล้วต้องกักตัวที่บ้านเพื่อดูอาการอีก 14 วัน ขณะที่บางท้องถิ่นได้มีการออกกฎที่เข้มงวดขึ้น ด้วยการสั่งให้ผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่นั้นเข้ากักตัว 14 วัน ในโรงแรมที่ผ่านการอนุมัติจากทางรัฐบาลแล้วเท่านั้น ไม่ใช่การกักตัวที่บ้านของตัวเอง
การออกกฎดังกล่าวสร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับประชาชนโดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีการออกมาวิจารณ์การออกกฎของรัฐบาลกันอย่างเผ็ดร้อนบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจีนอย่างเว่ยป๋อ
"ขอถามจริงๆ เถอะ พวกคุณได้คิดและพิจารณาแล้วจริงๆ ใช่ไหมก่อนที่จะออกนโยบายพวกนี้"
"เราสามารถตรวจหาเชื้อทุกๆ 7 วันในสภาพทางการแพทย์ของพื้นที่ชนบทที่กว้างใหญ่ของจีนได้จริงๆ หรือ"
"การรวมตัวของประชาชนจำนวนมากเพื่อเข้าตรวจหาเชื้อเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการแพร่เชื้อหรือเปล่า"
"รัฐบาลอนุญาตให้หยุดยาว 7 วัน แต่ขอให้ผู้เดินทางกักตัว 14 วัน พวกคุณใช้อะไรทำสมอง?"
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา สื่อของรัฐบาลจีนเดินหน้าเฉลิมฉลองการประสบความสำเร็จของการควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพยายามเปรียบเทียบการรับมืออย่างรวดเร็วและมาตรการที่มีประสิทธิภาพของตนเองกับประเทศอื่นในภูมิภาค
แต่ปีนี้จีนต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่อีกครั้ง เมื่อมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อใหม่อย่างน้อย 2,000 คนในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ ส่งผลให้รัฐบาลจีนต้องเร่งรับมมือกับสถานการณ์นี้อย่างเร่งด่วน