นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติกล่าวว่า ปัญหาฝุ่นวันนี้อยู่ในขั้นวิกฤติ แต่รัฐบาลไม่มีมาตรการทางปฏิบัติอะไรออกมาเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หรือแม้แต่หน้ากากกันฝุ่นที่รัฐบาลสามารถทำเป็นสินค้าควบคุมราคาให้ประชาชนเข้าถึงโดยง่าย รัฐบาลก็ยังไม่ทำ จนประชาชนทนไม่ไหว แฮชแท็กฝุ่นกรุงเทพ ขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่ง และประชาชนหลายคนรุมประณามความเลือดเย็นของรัฐบาลที่ไม่ใส่ใจความเดือดร้อนของประชาชน แม้แต่ผู้ที่ไม่เคยสนใจการเมืองหรือผู้สนับสนุนรัฐบาลมาก่อนก็รับไม่ได้กับการที่รัฐบาลเมินปัญหาคุณภาพชีวิตของประชาชน
"การที่รัฐบาลไม่มีแผนปฏิบัติงานที่จะแก้ปัญหาฝุ่นอย่างยั่งยืนทำให้ประชาชนเข้าใจได้ว่า ‘รัฐบาลต้องการประชากรที่ด้อยคุณภาพเพื่อจะได้ปกครองง่าย’ หรืออย่างไร"
ถ้ารัฐบาลคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะเริ่มแก้ปัญหาอย่างไร ที่ไหนก่อน ตนขอแนะนำให้รัฐบาลลองนำวิธีแก้ปัญหาฝุ่นที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เคยพูดเคยเเนะนำไว้ในรายการ Good Monday เมื่อปีที่ผ่านมามาประยุกต์ใช้ ซึ่งสิ้นเปลืองงบประมาณน้อยกว่าการซื้ออาวุธเป็นหลายเท่า และสามารถทำได้ทันทีภายในเดือนมกราคมนี้ โดยเร่งให้หน่วยงานภาครัฐอย่างกระทรวงเกษตรเเละกรุงเทพมหานคร นำต้นไม้โตแล้วมาปลูกทุกเกาะกลางถนน ทางเท้าให้แน่นเป็นพื้นที่ป่าทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเเละอาจจะเพิ่ม ปริมาณฝนจะได้ลดปริมาณฝุ่นได้ รวมทั้งอาจจะทำหอคอยฟอกอากาศในจุดที่มีฝุ่นปริมาณสูง
อีกทั้งอาจจะขอความร่วมมือเอกชนช่วยทำเครื่องฟอกอากาศหน้าห้างสรรพสินค้าแลกกับการลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ที่รัฐบาลได้ช่วยเหลือห้างสรรพสินค้าเหล่านี้ไปแล้ว โดยภาระบรรจุภัณฑ์ได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นภาระของผู้ซื้อแทนผู้ขาย พร้อมทั้งรณรงค์อย่างจริงจังให้ประชาชนรู้ถึงพิษภัยฝุ่นเพื่อจะได้ช่วยกันลดปริมาณฝุ่น ไม่ใช่ให้โฆษกรัฐบาลออกมาบอกว่า ‘ประชาชนอย่าตื่นกลัวฝุ่น’ ซึ่งเท่ากับบอกว่าปัญหาฝุ่นไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้วอย่างนี้จะรณรงค์ลดปริมาณฝุ่นได้อย่างไร