วันนี้ (15 มี.ค. 66) เวลา 15:30 น. ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ แถลงข่าวแสดงท่าทีหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถอนวาระรถไฟฟ้าสายสีส้ม ภายหลังจากที่เดินทางมามอบเงินจำนวน 3 ล้านบาทให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช พร้อมลงพื้นที่ตลาดวังหลัง รณรงค์ให้ประชาชนไม่สนับสนุนพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า
โดย ชูวิทย์ เริ่มต้นการแถลงข่าวด้วยการหยิบหนังสือเล่มเปล่า ระบุชื่อ “ผลงานของพรรคภูมิใจไทย” พร้อมเสื้อยืดคอลเลคชั่นต้านโกงสกรีนใบหน้าของตนเองขึ้นมาให้สื่อมวลชนดู จากนั้น ชูวิทย์ กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ (14 มี.ค. 66) มีการนำเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้าสู่ที่ประชุม ครม. นัดสุดท้ายเป็นวาระจร โดยประเด็นที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พูดถึงเรื่องการล็อคสเปคเกี่ยวกับรถไฟฟ้าสายสีส้มว่า ศาลตัดสินแล้วไม่มีการล็อคสเปค ตนขอโต้แย้งว่า วิษณุ พูดไม่ถูกต้อง เพราะสิ่งที่ศาลปกครองสูงสุดตัดสินคือเรื่องการแก้ไขหลักเกณฑ์การประมูลเมื่อปี 2563 จาก เกณฑ์ที่ถูกและดี เปลี่ยนเป็นการใช้ดุลยพินิจ ส่วนเรื่องของการล็อคสเปคนั้น ศาลยังไม่มีคำตัดสิน รวมทั้งกรณีรถไฟฟ้าสายสีส้มยังมีคดีค้างอยู่ในศาลอีกถึง 2 คดี
ดังนั้นขอเดินหน้ารณรงค์ในการทำลายเสียงพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคนั้นเหมาเอาแต่กระทรวงคมนาคม โดยในวันศุกร์นี้ ตนจะไปร้อง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทย เพราะมีการตั้งนอมินี ซุกหุ้น เอาบริษัทนอมินีรับงานของกระทรวงฯ ที่คุมอยู่ และนำผลกำไรจากการทำกิจการไปบริจาคให้พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีเอกสารหลักฐานชัดเจน
ชูวิทย์ ยืนยันว่า ควรมีการสอบสวน กกต. ก่อนการเลือกตั้งอย่างเร่งด่วน โดยให้มีการยุบสภาฯก่อนการเลือกตั้ง เพราะถ้ายุบสภาฯ หลังเลือกตั้งก็จะมีปัญหา ส.ส.ย้ายไปพรรคอื่นได้ พร้อมเตือนไปยังพรรคการเมืองอื่นอีกว่า ในสมัยหน้าจะต้องถูกเปลี่ยน และพรรคการเมืองจะต้องไม่ปฎิบัติแบบนี้อีก ซึ่งตนจะรณรงค์ผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ให้เป็นตัวอย่างว่า ใครหาเสียง ตนจะไปทำลายเสียง ซึ่งพรรคนั้นมีแผลทุกจุด เพราะตนเองยังไม่ได้พูดถึงเรื่องวัคซีน และนโยบายกัญชาเสรีด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ ชูวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จะรณรงค์ต่อต้านการโกงและทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งจะเริ่มวันนี้เป็นวันแรก โดยหลังจากนี้ จะเดินสายทำลายคะแนนเสียงของพรรคภูมิใจไทยในทุกพื้นที่ อาทิ พัทลุง, โคราช, อำนาจเจริญ, บุรีรัมย์ เป็นต้น
จากนั้น ชูวิทย์ มุ่งหน้าลงพื้นที่พบปะประชาชนในตลาดวังหลัง พร้อมอุดหนุนร้านค้าต่างๆและรณรงค์ผ่านพ่อค้าแม่ค้า ให้ไม่สนับสนุนพรรคภูมิใจไทยด้วย โดยผู้คนต่างให้ความสนใจและขอถ่ายรูปจำนวนมาก