ไม่พบผลการค้นหา
“รัฐบาลหัวแข็ง ไม่ฟังใคร” เพื่อไทย ชี้รัฐเทเงินภาษีประชาชนสร้างสนามบินเบตงไปเกือบ 2,000 ล้าน สุดท้ายเหลวไม่เป็นท่า เหตุไม่ฟังข้อเสนอเอกชน ไร้แผนลงทุน - แผนท่องเที่ยวรองรับ

ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังสายการบินนกแอร์ประกาศระงับเที่ยวบิน ดอนเมือง-เบตง ทันทีภายหลัง พล.อ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้บินไฟลท์ปฐมฤกษ์ไปเปิดใช้สนามบินอย่างเป็นทางการ โดยให้เหตุผลว่าเป็นเที่ยวบินที่ส่อขาดทุน ไม่คุ้มการดำเนินงาน และยืนยันที่ต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐตามที่เคยร้องขอ เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า รัฐบาลชุดนี้ได้แสดงผลงานการเป็นรัฐบาลหัวแข็ง ไม่รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของภาคเอกชน

การลงทุนสร้างสนามบินเบตง 1,900 ล้านบาทที่อนุมัติโครงการในยุครัฐบาล คสช. รวมไปถึงการตัดสินใจจัดงานเพื่อเริ่มเปิดใช้สนามบินในช่วงที่ผ่านมา หลายฝ่ายได้ทักท้วงหลายครั้งแต่รัฐบาลไม่เคยฟัง ทำหูทวนลม หรือจริงๆแล้วรัฐบาลคาดหวังเพียงได้ใช้เงินงบประมาณไปกับการลงทุนเพื่อสร้างภาพ และรักษาหน้าตาของตัวรัฐบาลเองกันแน่ เหตุผลเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้อำเภอเบตงที่ใช้มาชี้แจง ก็ไร้ซึ่งการวางแผนแม่บทส่งเสริมการท่องเที่ยว การลงทุน หรือการเตรียมการร่วมกับภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด

ชนินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสายการบินนกแอร์เคยยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล ผ่านกรมท่าอากาศยาน ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ.2563 โดยมีข้อเรียกร้องเพื่อบรรเทาต้นทุน 7ข้อ แลกเปลี่ยนกับการยอมเปิดเส้นทางบินตามความต้องการของรัฐบาล ประกอบด้วย การสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าการตลาด ค่าธรรมเนียมการบิน ค่าบริการภาคพื้นสนามบิน ค่าบริการเติมน้ำมัน เป็นต้น และที่สำคัญที่สุดคือต้องมีการประกันจำนวนผู้โดยสารจากรัฐ (Hard Block) จำนวน 60-75% ของจำนวนความจุผู้โดยสาร ข้อเสนอเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการเปิดการบินลงสนามบินเบตงเป็นการทำธุรกิจที่ขาดทุนมาตั้งแต่ต้น

รัฐบาลควรนพสิ่งเหล่านี้มาพิจารณาให้ถี่ถ้วน ไม่ใช่สักว่าจะเปิดสนามบินแล้วปล่อยทิ้งตามยถากรรม เพราะเมื่อสนามบินเปิดใช้แล้ว ย่อมมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการที่ตามมาอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้รัฐเร่งหารือกับเอกชน ทั้งภาคธุรกิจท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรมให้ชัดเจน การใช้งบประมาณเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการสายการบินเป็นแนวทางที่ทำได้ แต่ต้องสามารถอธิบายมูลค่าการเติบโตของเศรษฐกิจและการลงทุนที่จะคืนกลับมาภายใต้โครงการเดียวกันได้ด้วย

“พล.อ.ประยุทธ์ต้องเลิกบริหารประเทศตามยถากรรม หรือตอบประชาชนว่า ถ้าเปิดประเทศได้แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง หยุดมโนว่าเปิดแล้วจะกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งที่ไม่มีการคาดการณ์ตัวเลขความคุ้มทุนหรือกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เลย การลงทุนที่ไม่มีแผนแม่บทรองรับ หรือขาดการประสานความร่วมมือของภาคส่วนอื่นๆ ย่อมไม่มีทางสัมฤทธิ์ผลตามที่หวังไว้ อย่าให้ประชาชนต้องตำหนิเลยว่า สนามบินเบตง 1,900 ล้านสร้างขึ้นมาเพื่อให้พลเอกประยุทธ์ทำพิธีเปิดสนามบิน บินได้ไฟลท์เดียวแล้วปิดสนามเลย เห็นแก่เงินภาษีประชาชนบ้าง” นายชนินทร์กล่าว