นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม โฆษกคณะกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศและการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ วุฒิสภา หรือ ตสร. แถลงว่าในสัปดาห์หน้าวันที่ 29-30 มิ.ย. การประชุมวุฒิสภาจะพิจารณาเสนอแนะเรื่องการปฏิรูปประเทศ 13 ประเด็นการปฏิรูป ทั้งเร่งรัดการปฏิรูปตำรวจ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นการพิจารณาตลอดทั้งวันโดย มีผู้ยื่นอภิปรายประมาณ 50 คน ส่วน 13-14 ก.ค. วาระอภิปรายเสนอแนะเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ
ด้าน น.พ.พลเดช ปิ่นประทีป ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ ระบุว่า การเสนอแนะเรื่องปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน จะเสนอเรื่องรวม 3 การไฟฟ้าเข้าด้วยกัน คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อให้เกิดเอกภาพทางนโยบาย โดยเชื่อว่าข้อเสนอจะทำให้การกำหนดค่าไปมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ทั้งนี้มีสมาชิกวุฒิสภาส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
นอกจากนี้เรื่องการปฏิรูปกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น ประเด็นที่มีข้อคิดเห็นมาก ซึ่งกรรมาธิการต่างสะท้อนเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นภายในปี 2563 และมีเรื่องการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ และการฟื้นฟู้เศรษฐกิจฐานราก ในส่วนเงินกู้ 4 แสนล้านบาท สมาชิกต่างมีข้อเสนอแนะฝากยังรัฐบาล โดยตั้งข้อสังเกตถามความคืบหน้าการตั้ง “สำนักงานบูรณาการแก้ไขปัญหาความยากจน และการจัดทำร่าง พบรัก.บ.แก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ
รวมถึงข้อเสนอให้เร่งรัดการปฏิรูปด้านการเมือง ซึ่งมีข้อเสนอว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย หลายฝ่ายอยากเห็น “สังคม New Normal” และเช่นกันนี้ต้องการเห็น “การเมือง NewNormal” ด้วย ส่วนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข เร่งรัดติดตามการจัด คณะกรรมการนโยบายสุขภาพแห่งชาติ เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสุขภาพ ทั้งกระทรวง ทบวง กรม และองค์อรอิสระ เพื่อวางแผนให้มีกลไกเขตสุขภาพ บูรณาการให้เกิดความเป็นธรรมในการบริหาร
ขณะที่ นางดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ในฐานะโฆษก ตสร. กล่าวย้ำ ในการปฏิรูปด้านการสร้างความโปร่งใสให้แก่ประเทศทั้งระยะสั้นตามการปฏิรูปประเทศ และระยะยาวตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ โดยเฉพาะความโปร่งใสในการจัดการกับเม็ดเงินงบประมาณตาม พ.ร.ก.กู้เงิน ในงบฯ 4 ล้านบาทในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่คณะกรรมาธิการของวุฒิสภา ได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการติดตามการใช้เงิน