เมื่อวันที่ 17 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ไปอีก 2 เดือน (21 พ.ค.-20 ก.ค.65) โดยจะมีการพิจารณาต่อทุกๆ 2 เดือน ซึ่งคาดว่าจะเกิดผลกระทบต่อรายได้รัฐราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งวันนี้ใช้ไปรวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท แต่ก็ถือว่าจะเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้นไปตามราคาตลาดโลก
ขณะที่ในส่วนของน้ำมันเบนซินจะพิจารณาช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มที่เดือดร้อนจริงๆ แต่ถ้าจะทำทั้งหมดก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก พร้อมขอที่เหลืออะไรที่พอช่วยกันได้ก็ช่วยกันไปก่อน สิ่งสำคัญที่สุดคือจะทำยังไงให้เราช่วยกันประหยัดพลังงานให้ได้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาคอยช่วยทุกอัน แต่ทุกคนก็ทราบดีว่ารายได้เป็นอย่างไรในการใช้งบประมาณในการแก้ปัญหาทุกอย่าง
ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกันนี้ ถือเป็นมาตรการทางภาษีในระยะสั้น เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศ ซึ่งเป็นต้นทุนในภาคการผลิตและภาคการขนส่งในทุกอุตสาหกรรม ไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนกระทบต่อภาระค่าของชีพของประชาชน จากสถานการณ์ราคาสินค้าในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นที่อาจจะอยู่ในระดับที่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีถึงความจำเป็นต้องต่อเนื่อง ในการดูแลประชาชนและผู้ประกอบการอย่างทั่วหน้า ขณะเดียวกันการส่งเสริมการประหยัดพลังงานในภาคประชาสังคมควบคู่กันไปด้วย