น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวว่า ช่วงเช้าของวันนี้ (12 เม.ย.) ได้ลงพื้นที่นำเฟซชีลด์จำนวน 4,800 ชิ้นมาแจกจ่ายให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายในตลาดจำนวน 6 ตลาดด้วยกันในพื้นที่เขตจอมทองและธนบุรี ได้แก่ ตลาดสินทวี ตลาดจอมทอง ตลาดวัดไทร ตลาดวัดนาคนิมิต ตลาดวัดราชวรินทร์ (ตลาดสำเหร่) และ ตลาดหน้าโรงพยาบาลทหารเรือสองฝั่ง 

เนื่องจากภายหลังรัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และประกาศเคอร์ฟิวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้น จึงออกมาจับจ่ายใช้สอยสินค้าในตลาดเป็นจำนวนมากกว่าที่ผ่านมา แม้จะเป็นเรื่องที่ดีต่อสภาพเศรษฐกิจ

แต่ในทางกลับกันในช่วงเวลานี้ยังเป็นช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส พ่อค้าแม่ค้าอาจมีความเสี่ยงที่จะสัมผัสกับผู้ติดเชื้อและอาจแพร่เชื้อได้ ตนมีความห่วงใยจึงได้นำเฟซชีลด์มาแจกจ่ายให้กับพ่อค้าแม่ค้าเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อเพื่อลดความเสี่ยง โดยได้ย้ำว่าถึงแม้จะสวมใส่เฟซชีลด์แล้วก็ยังต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากทางเลือกเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วย ทั้งนี้ยังวอนขอให้เจ้าของตลาดควบคุมดูแลให้เป็นไปตามประกาศของรัฐในเรื่องของมาตรการต่างๆ ที่เป็นต้นตอการแพร่กระจายเชื้อในวงกว้าง หรือ ซูเปอร์สเปรดเดอร์ได้

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่า พบว่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้ามีความเข้าใจเจตนารมณ์ของรัฐบาล ที่มีความตั้งใจจริงในการคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน พร้อมให้ความร่วมมือกับมาตรการต่างๆมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ยังฝากผ่านไปยังนักการเมืองฝ่ายค้านบางส่วน อยากให้ออกมาช่วยกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน เหมือนที่พรรคพลังประชารัฐได้ส่งส.ส.และอดีตผู้สมัครส.ส.ของพรรคลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน พรรคพลังประชารัฐพร้อมที่จะเดินหน้าไปกับรัฐบาลและประชาชนเพื่อแก้ไขวิกฤติประเทศให้ผ่านพ้นไปด้วยดี

"ตอนนี้ ต้องยอมรัฐบาลประสบความสำเร็จในการชะลอการแพร่ระบาดในระดับหนึ่ง ไปพร้อมกับมาตรการเยียวยาต่างๆ แต่กลับปรากฏว่ามีนักการเมืองฝ่ายค้านบางส่วน อาจกลัวตกขบวน ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนปรนกติกาบางอย่าง เพียงเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยไม่ยั้งคิดว่าจะส่งผลกระทบตามมา ทั้งที่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาขัดแข้งขัดขากัน หรือชักใบให้เรือเสีย ทั้งที่ช่วงนี้บรรดาอาจารย์หมอต่างชี้ว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญในการควบคุมโรค หากกลับมาแพร่ระบาดรุนแรงอีกครั้งจะรับผิดชอบอย่างไร" น.ส.ทิพานัน กล่าว