สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่พิชัย นริพทะพันธุ์ ระบุถึงการลาออกของปรีดี ดาวฉาย จากตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเท่ากับหมดเวลาของนายกรัฐมนตรี เพราะหมดความน่าเชื่อถือ เศรษฐกิจทรุดหนัก และให้นายกรัฐมนตรี ควรลาออกนั้น ว่าการลาออกของปรีดี ถือเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากปรีดีได้ชี้แจงไปแล้วว่ามีข้อจำกัดของเวลาและปัญหาสุขภาพ ที่อาจทำงานได้ไม่เต็มที่ และยืนยันว่าไม่มีปัญหาใดกับคนในพรรคพลังประชารัฐ
ทั้งนี้ เชื่อว่าก่อนที่ปรีดี จะเสียสละเข้ามาทำงานให้กับประเทศได้คิดไว้เป็นอย่างดีและรู้ดีถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศอยู่แล้วโดยไม่ใช่เพราะว่าเข้ามาแล้วเห็นตัวเลขเศรษฐกิจ หรือเพราะนายกฯ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ดังนั้นพิชัยก็ไม่ควรที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อมากล่าวหา หรือตำหนินายกฯและรัฐบาล เป็นการวิจารณ์แบบไร้สมองคิดที่สุด
ขณะเดียวกันปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้พิชัยก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเกิดจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ซึ่งเกิดขึ้นในทั่วโลก และรัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขปัญหาทั้งการเยียวยาให้กับประชาชน และเกษตรกร อย่างเต็มที่เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม
สุภรณ์ ยังมั่นใจว่าหากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก หากพิชัยให้นายกฯ ลาออก และให้คนในพรรคเพื่อไทยเข้ามาแก้ไขปัญหาก็ไม่สามารถช่วยได้ เพราะอย่าลืมว่าในสมัยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลไม่ได้แก้ไขปัญหาอะไร และพัฒนาประเทศเลย มีแต่มุ่งเน้นที่จะผ่านกฎหมาย "นิรโทษกรรมเหมาเข่ง" หรือ "นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย"
และปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเสียหายย่อยยับจนชาวนาหลายคนต้องผูกคอตาย ซึ่งแตกต่างจากรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ ที่เข้ามาได้พยายามแก้ไขปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจในหลายโครงการ ช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการประกันราคาพืชผลทางการเกษตร และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นต่างๆ ที่ได้ผลดีในระดับพอใจ และสิ่งสำคัญรัฐบาลนี้จัดการปัญหาโควิด-19 ได้เป็นอย่างยอดเยี่ยม จนเป็นที่ยอมรับกันทั้งคนในประเทศและทั่วโลก ซึ่งการที่เศรษฐกิจชะลอตัวจึงไม่ใช่ความผิดพลาดของนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล จึงไม่เป็นธรรมที่จะให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง
"และที่ชัดเจนที่สุดนายกฯ ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์คนนี้ ไม่มีประวัติเสียหายในเรื่องการทุจริตคอรัปชัน เหมือนผู้นำในอดีตที่ใกล้ชิดพิชัย ที่มีข้อหาการทุจริตโกงข้าวชาวนา เสียหายมากมายเศรษฐกิจก็พังพินาศเสียหายย่อยยับ ผู้นำคนนั้นยังไม่เคยคิดลาออกเลย ทำไมนายพิชัยจึงไม่บอกให้ผู้นำคนนั้นลาออกบ้างล่ะครับ" สุภรณ์ ระบุ