ย้อนไปเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยในนโยบายข้อ 3.4 ได้กล่าวถึงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางราง ระบบรถไฟทางคู่เชื่อมชานเมืองและหัวเมือง ศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูง
15 ม.ค. 2556 ครม. ได้มีมติยกร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ หรือที่เรียกว่า “ร่าง พ.ร.บ.2ล้านล้านบาท”
27 ก.พ. 2556 ครม.มีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งประเทศเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำร่าง พ.ร.บ.สองล้านล้านบาท และเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการจัดนิทรรศการ สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน โดยให้นำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนครบถ้วน
8-12 มี.ค. และ 19-21 เม.ย. 6-9 มิ.ย. และ 19-21 มิ.ย. 2556 กระทรวงคมนาคมดำเนินโครงการจัดนิทรรศการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในกรุงเทพมหานคร จังหวัดหนองคาย จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดพิษณุโลก
19 มี.ค. 2556 รัฐบาลเสนอร่าง พ.ร.บ.สองล้านล้านบาทต่อสภาผู้แทนราษฎร
28-29 มี.ค.2556 สภาผู้แทนราษำรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สองล้านล้านบาทในวาระที่ 1
2 ก.ค. 2556 คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย โดย ศ.คณิต ณ นคร มีความเห็นและข้อเสนอแนะถึงนายกฯ ว่า ร่าง พ.ร.บ.สองล้านล้านบาท อาจมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
ส.ค. 2556 นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประชุมเตรียมการ่รวมกับผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างไม่เป็นทางการหลายครั้งภายในทำเนียบรัฐบาล มีนายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการทั่วไป บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และตัวแทนบริษัท สยามสปอร์ตฯ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เข้าพบนายสุรนันทน์ เพื่อเตรียมการเป็นผู้รับจัดงานโครงการ Roadshow
20 ก.ย. 2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐบาลเคาะจัดโรดโชว์ ประเดิม จ.หนองคาย เป็นจังหวัดแรก โดยให้เอกชนเป็นหลักในการจัดงาน
19-20 ก.ย. 2556 สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สองล้านล้านบาท ในวารที่2-3
24 ก.ย. 2556 นายสุรนันทน์ อนุมัติหลักการโครงการโรดโชว์ 2 จังหวัด ที่ จ.หนองคาย และ จ.นครราชสีมา วงเงิน 40 ล้านบาท
25 ก.ย. 2556 นายกรัฐมนตรีอนุมัติงบกลางฯ วงเงิน 40 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดโครงการโรดโชว์ และเห็นชอบให้จัดโครงการใน 2 จังหวัดก่อน
26 ก.ย. 2556 นายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงข่าวโครงการ โรดโชว์ที่จะจัดขึ้น 12 จังหวัดทั่วประเทศ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมี บ.มติชน และ บ.สยามสปอร์ตฯ ร่วมจัดงานแถลงข่าวด้วย โดยก่อนเริ่มการจัดจ้างมีเจ้าหน้าที่ บ.มติชนฯ มาพบ ผอ.สำนักบริหารกลาง ยื่นเอกสารข้อเสนอด้านราคาวงเงิน 40 ล้านบาท
การแถลงข่าวครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าถ้าเราร่วมกันวาดภาพอนาคตในอีก 7 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร เพราะโครงการนี้เป็นโครงการของคนไทยทุกคนที่จะร่วมมือกันสร้างเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ เป็นการ “สร้างอนาคตไทย 2020” ที่ซึ่งมีความหมายมากกว่าเพียงเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ประโยชน์หลักของระบบนั้นมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุนขนส่ง เพราะถ้าเราไม่พัฒนา เราก็คงหยุดอยู่กับที่ ในขณะที่เพื่อนบ้านเราพัฒนา ในที่สุดขีดความสามารถของเราก็จะลดลง
"ในอนาคต เมื่อสร้างเสร็จ เราจะไม่ได้มีแค่รถไฟ หรือระบบรางเท่านั้น แต่เราจะมีมากกว่าคือ ความเชื่อมโยง ที่ส่งเสริมให้สินค้าเกษตรเพิ่มรายได้ในท้องถิ่นมากขึ้น ความเชื่อมโยงจากเมืองท่องเที่ยวหนึ่งสู่อีกเมืองท่องเที่ยว จากเมืองสู่เมือง กระจายความเจริญด้วยการสร้างศูนย์กลางของแต่ละภูมิภาค และความเชื่อมโยงระหว่างคนในครอบครัวให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ
ทั้งนี้ นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2563 ว่า การจัดงานดังกล่าวยังซ้ำซ้อนกับงานนิทรรศการที่กระทรวงคมนาคมได้จัดไปก่อนแล้ว ประกอบกับไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใดว่า หากไม่ดำเนินการโครงการ Roadshow ในขณะนั้นแล้วทางราชการหรือประชาชนจะได้รับความเสียหายแต่อย่างใด สถานการณ์ในขณะนั้นจึงยังไม่มีเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วนที่จะออกไป Roadshow ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวแต่อย่างใด
1 ต.ค. 2556 บ.มติชน จำกัด (มหาชน) ยื่นเอกสารเสนอราคาและต่อรองราคา ต่อมานายสุรนันทน์ เสอนเห็นควรจัดจ้าง บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ อนุมัติ โดยอนุมัติตามเสนอ ซึ่ง ผอ.สำนักบริหารกลางได้รับมอบอำนาจจากเลขาธิการนายกฯ ให้เป็นผู้ลงนามในหนังสือจ้างที่ 1/2557 สั่งจ้างบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดโครงการวงเงิน 40 ล้านบาท ที่ จ.หนองคาย และ จ.นครราชสีมา
4-6 ต.ค. 2556 บริษัท มติชนฯ จัดนิทรรศการ ที่ จ.หนองคาย เป็นจังหวัดแรก
9 ต.ค. 2556 นายสุรนันทน์ อนุมัติหลักการจัดโครงการ โรดโชว์ จำนวน 10 จังหวัด ในวงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณค่าใช้จ่ายในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของรัฐบาล งบฯ ปี 2557
11 ต.ค. 2556 นายสุรนันทน์ เสนอขออนุมัติหลักการจัดโครงการ จำนวน 10 จังหวัด วงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท ไปยังนายนิวัฒน์ธำรง โดยนายนิวัฒน์ธำรงได้อนุมัติ
โฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ยังระบุด้วยว่า นายสุรนันทน์ และนายนิวัฒน์ธำรง ได้อนุมัติให้นำราคากลางที่ได้กำหนดตรงกับข้อเสนอด้านราคาของบริษัท มติชนฯ ไว้แล้ว มาเป็นราคากลางในครั้งนี้ โดยแบ่งการจัดจ้างเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 5 จังหวัด โดยตกลงแบ่งงานให้บริษัท มติชนฯ และบริษัท สยามสปอร์ตฯ บริษัทละ 5 จังหวัด โดยในส่วนของบริษัทสยามสปอร์ตฯ มีนายระวิ โหลทอง ลงนามยื่นเอกสารการเสนอราคาด้วยตนเอง ซึ่งนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เห็นสมควรอนุมัติจัดจ้างทั้งสองบริษัทดังกล่าว ซึ่งกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจนถึงขั้นตอนการลงนามในหนังสือสั่งจ้างใช้เวลาดำเนินการเพียงวันเดียวเท่านั้น
โดยครั้งนี้ได้เบิกจ่ายจากงบประมาณประจำปี 2557 ค่าใช้จ่ายในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่พบว่าการลงนามในหนังสือสั่งจ้างได้กระทำไปก่อนที่ได้รับเงินประจำงวดจากสำนักงบประมาณ ทั้งที่ส่วนราชการทราบดีว่าการลงนามในหนังสือสั่งจ้างได้ ก็ต่อเมื่อสำนักงบประมาณได้แจ้งจัดสรรเงินงบประมาณมาให้แล้วเท่านั้น (ใบงวด) ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502
ทั้งนี้ ไทม์ไลน์การจัดนิทรรศการ โดย บ.มติชน จำกัด (มหาชน) 11-13 ต.ค. 2556 จ.นครราชสีมา 18-20 ต.ค. 2556 จ.อุบลราชธานี 25-27 ต.ค. 2556 จ.ขอนแก่น 1-3 พ.ย. จ.นครสวรรค์ 8-10 พ.ย. 2556 จ.พระนครศรีอยุธยา 15-18 พ.ย. 2556 จ.เชียงใหม่
บ.สยามสปอร์ต ซินดิเคทฯ จัดนิทรรศการ 15-17 ต.ค. 2556 จ.ชลบุรี (พัทยา) 1-3 พ.ย. 2556 จ.ฉะเชิงเทรา 8-10 พ.ย. 2556 จ.เพชรบุรี 22-24 พ.ย. 2556 จ.นครศรีธรรมราช และ 29 พ.ย.-1 ธ.ค. 2556 จ.สงขลา
27 พ.ย. 2556 ประธานรัฐสภาส่งความเห็นสมาชิกรัฐสภา จำนวน 66 คน และประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของ ส.ส. 146 คน ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.สองล้านล้านบาท ขดัหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
29 พ.ย. - 1 ธ.ค. 2556 บ.สยามสปอร์ต ซินดิเคทฯ จัดนิทรรศการ จ.สงขลา เป็นจังหวัดสุดท้าย
11 ธ.ค. 2556 ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องตีความร่าง พ.ร.บ.สองล้านล้านบาทไว้พิจารณา
12 ธ.ค. 2556 นายสุรนันทน์ มีหนังสือถึงปลัดกระทรวงการคลังขออนุมัติลงนามในสัญญาก่อนได้รับอนุมัติเงินประจำงวด
7 ม.ค. 2557 ครม.มีมติอนุมัติให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีลงนามในสัญญาก่อนได้รับอนุมัติเงินประจำงวดในการดำเนินโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 ทุกภาคทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ จำนวน 10 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดอุบลราชธานี ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี นครสวรรค์ เชียงใหม่ ชลบุรี นครศรีธรรมราช และสงขลา ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
13 ม.ค. 2557 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือถึงนายสุรนันทน์ ว่าการดำเนินการโครงการโรดโชว์ มีแนวโน้มไม่บรรลุวัตถุประสงค์ไม่โปร่งใสและไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากโครงการเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญและยังไม่ทราบผลการพิจารณา
23 ม.ค. 2557 นายสุรนันทน์ มีหนังสือชี้แจง สตง.ยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบาย ส่วนร่าง พ.ร.บ.สองล้านล้านบาท ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ก็จะพิจารณาทบทวนเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับร่างกฎหมายดังกล่าว
11 มี.ค. 2557 สตง.มีหนังสือถึงเลขาธิการนายกฯ ขอให้ทบทวนการใช้จ่ายเงินในการดำเนินการโครงการโรดโชว์ โดยระบุว่าการที่่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีใช้งบประมาณโครงการประชาสัมพันธ์ 240 ล้านบาท จัดจ้างโดยวิธีพิเศษ โดยให้เอกชนดำเนินการทั้งหมดจึงเป็นการดำเนินการที่ไม่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันราคาอย่างเปิดเผยโปร่งใส และเป็นธรรม ซึ่งอาจจัดจ้างในราคาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น และอาจเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.ฮั้ว อาจทำให้ราชการได้รับความเสียหาย
12 มี.ค. 2557 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 3-4/2557 ว่า ร่าง พ.ร.บ.สองล้านล้านบาทตราขึ้นโดยมิใช่กรณีจำเป็นเร่งด่วน ไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นสาระสำคัญมีผลให้ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นอันตกไป ส่งผลให้โครงการต่างๆ ตามที่ได้ออกไป Roadshow มิได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด การใช้งบประมาณในโครงการ Roadshow จำนวน 240 ล้านบาท จึงเกิดความสูญเปล่า เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังชี้ว่า วันที่ 23 มี.ค. 2556 รัฐบาลอนุมัติเบิกจ่ายค่าจ้างให้กับผู้รับจ้างเป็นเงิน 239.7 ล้านบาท
1. การกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายนิวัฒน์ธำรง และนายสุรนันทน์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 192 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 และ 13
2. การกระทำของบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และนายฐากูร บุนปาน บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และนายระวิ โหลทอง มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2561 มาตรา 192 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงาน ของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 และมาตรา 13 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นพร้อมสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายนิวัฒน์ธำรง นายสุรนันทน์ บริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) นายฐากูร บุนปาน บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และนายระวิ โหลทอง
22 ก.ค. 2563 นายสุรนันท์ โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า ยืนยันตนเองได้ปฏิบัติตามกฎหมายเคร่งครัด พร้อมยกผลสอบของ คตร. ที่ชี้ว่าการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกฯ โดยเชื่อว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาทุกราย
23 ก.ค. 2563 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กได้ตั้งข้อสังเกตกับ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า มีความขยันในการเร่งรัดคดีของตน ฝ่ายเดียว เพราะภายในเดือนนี้ (ก.ค.) เดือนเดียว คณะกรรมการา ป.ป.ช.ก็มีการชี้มูลความผิดกับตนถึง 2 คดีติดๆ กัน คือ 1.คดีชี้มูลเรื่องการใช้อำนาจโอนนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2563 และ 2.คดี "โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020" วงเงิน 240 ล้านบาท
อดีตนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ดูเหมือนคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลปัจจุบันมากเป็นพิเศษในหลายคดี ทั้งที่เป็นคดีที่สังคมเกิดข้อกังขาและตั้งข้อสงสัยมากมายกับการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.และผลการพิจารณาหลายคดีค้านกับความรู้สึกของประชาชน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า รัฐบาลของตนเสนอนโยบายสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง และโครงสร้างพื้นฐานอีกหลายเรื่องโดยการออกร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงการพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ..... หรือที่เรียกว่า ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเป็นโครงการที่ทำให้เกิดการรับรู้และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ไม่มีเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบใดๆ ต่อมารัฐบาลชุดปัจจุบันก็นำโครงการนี้มาดำเนินการต่อ และวันนี้รัฐบาลปัจจุบันก็จำเป็นต้องออกนโยบายโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน ซึ่งมากกว่ารัฐบาลตนโดยปราศจากการท้วงติงหรือการตรวจสอบจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. .
"บางครั้งการนำนโยบายหรือสิ่งใหม่ๆมาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทำให้เกิดการสร้างงานในประเทศ และเป็นการใช้ภาษีของประชาชนเพื่อการลงทุนอย่างคุ้มค่า ด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่เกิดการต่อต้าน ถึงแม้เป็นนโยบายที่ดีกลับถูกโจมตี และคัดค้านแต่ในที่สุดรัฐบาลนี้ก็กลับนำเอานโยบายนี้ไปทำโดยใช้เงินมากกว่าอีก แต่กลับไม่มีใครค้านหรือตรวจสอบ" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ
ด้าน นายนิวัฒน์ธำรง ชี้แจงว่า โครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 นั้น ขอเรียนชี้แจงว่าโครงการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา อีกทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญ ยังกําหนดว่าโครงการขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบต่อประชาชนจํานวนมาก จะต้องมีการดําเนินการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ และสํารวจความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึง
ดังนั้นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงได้ดําเนินโครงการฯ ดังกล่าวตามกฎหมาย และการดําเนินการจัดจ้างผู้ทําโครงการ Roadshow ได้กระทําอย่างถูกต้องตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 พร้อมกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ และยินดีที่จะได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงให้เป็นที่ประจักษ์ว่าการดำเนินโครงการ Roadshow ได้ดําเนินการอย่างถูกต้องตามข้อกฎหมาย และระเบียบราชการทุกประการ และผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมในขั้นตอนสํานักงานอัยการสูงสุด และกระบวนการทางศาลต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง