วันที่ 13 ก.พ. ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวกรณี กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองมีพฤติกรรมขัดขวางขบวนเสด็จเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า ข้อเท็จจริงของสังคมในวันนี้มีความเห็นที่แตกต่างกันในหลายประเด็น ทั้ง การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะทางการเมืองที่มีความเห็นที่แตกต่าง และต่อสู้ทางความคิดอย่างยาวนาน แต่รูปแบบการแสดงออกต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย และอยู่ภายใต้เหตุผลข้อเท็จจริง และวุฒิภาวะ 

ส่วนตัวเห็นว่ากรณีที่เกิดขึ้นต่อขบวนเสด็จ เป็นเรื่องที่น่าห่วงใยอย่างยิ่ง จะบอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็พูดไม่ได้ แต่หวังว่าคนที่ขับเคลื่อนการต่อสู้ต่างๆ จะใช้วุฒิภาวะศึกษาเรียนรู้ เก็บรับประสบการณ์ เพื่อทำให้รูปแบบวิธีการของแต่ละกลุ่ม ไม่ได้เป็นเงื่อนไข ที่จะทำให้สถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ลุกลามบานปลาย อย่างไรก็ตามการใช้ความรุนแรงของทุกฝ่าย เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องตั้งสติ ใช้เหตุผลอย่าใช้อารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าใช้กำลังแสดงออกและเอาชนะกันทางการเมือง

ณัฐวุฒิ ระบุอีกว่า สถานการณ์ดังกล่าวไม่เกิดผลดีต่อ บุคคล องค์กร หรือสถาบันใดใด มีแต่จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดและเลวร้ายลง ตนอยากให้ทุกอย่างเป็นตามกฎหมายบ้านเมือง และวุฒิภาวะของคนในสังคม ที่จะคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ความเห็นที่แตกต่างให้อยู่ร่วมกันได้ ทั้งนี้ตนทราบว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะยื่นญัตติด่วนเรื่องนี้ เข้าสู่สภาในวันพรุ่งนี้ (14 กุมภาพันธ์) ตนมองสภาเป็นสถานที่เป็นสถาบันหลักที่จะร่วมกันขบคิด หาวิธีการป้องกันแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น

ส่วนจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือหรือไม่นั้น ณัฐวุฒิ บอกว่า อย่าให้ไปถึงขั้นนั้นเลย จากประวัติศาสตร์ชาติไทยเราบอบช้ำสูญเสียทางการเมืองมามากพอแล้ว แม้กรณีที่เกิดขึ้น จะพาความไม่พอใจมาสู่ใครหลายหลายคน แต่เท่าที่ทราบต้องมีการแสดงออกอย่างสันติวิธีหลากหลายรูปแบบ สิ่งที่ต้องระวังยับยั้งไม่ให้เกิดขึ้น คือ “การใช้ความรุนแรง” ต่างหาก 

“ตราบใดที่ความเห็นแตกต่าง ยังสามารถอยู่ร่วมสังคมโดยไม่ประทุษร้ายต่อกัน ตนว่ายังมีความหวัง สำหรับการเดินไปข้างหน้าของประชาธิปไตย แม้จะยากเย็นและยาวนานก็ตาม”

ส่วนกรณีที่ผู้สื่อข่าวอิสระถูกตำรวจควบคุมตัวสืบเนื่องจากกรณีดังกล่าว ณัฐวุฒิ ระบุว่า ตนไม่แน่ใจในรายละเอียด แต่ในหลักการและจุดยืน ทุกสังคมให้เสรีภาพของสื่อมวลชน ที่ต้องได้รับการคุ้มครอง โดยรัฐและทุกกลไกของบ้านเมือง ตราบใดที่สื่อมวลชนปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ถืออภิสิทธิ์ แต่มีสิทธิเสรีภาพโดยชอบ ที่จะนำเสนอข้อเท็จจริง ซึ่งการควบคุมตัวที่เกิดขึ้น ตนมีข้อมูลน้อยมากจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ว่าข้อเท็จจริง และเหตุผลเป็นอย่างไร 

ณัฐวุฒิ หวังว่า การลดความร้อนแรงในสถานการณ์นี้ เจ้าหน้าที่น่าจะมีคำอธิบายถึงกรณีกรณีดังกล่าว กระบวนการที่ปฏิบัติถูกต้องตามหลักนิติธรรมหรือไม่ เชื่อว่าเร็วเร็วนี้น่าจะมีคำอธิบายออกมา