วันที่ 28 มี.ค. จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกลับมาจากการลี้ภัยในต่างปนะเทศ นานกว่า 15 ปี เปิดเผยหลังจากการบันทึกจับกุมและให้ปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า วันนี้ตนมามอบตัวเพื่อสู้คดี 2 คดี ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวกับอาวุธทั้งหมด ที่ฟ้องโดยศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และศาลอาญา โดยก่อนหน้านี้ได้มีการประสานกับทนายความ และประสานกับเข้าหน้าที่ ทำให้การทำงานวันนี้รวดเร็ว พร้อมระบุว่าเดินทางออกจากประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 รู้สึกว่าเสียดายเวลาที่จะรับใช้ชาติ จากนี้ไปจึงตั้งใจว่าอะไรที่ทำให้ประเทศชาติได้ก็จะทำ
ก่อนหน้านี้ตนได้เคยพูดไว้ขณะที่เกิดรัฐประหาร ปี 2549 ขณะนั้นไม่มั่นใจสิ่งที่พูด สิ่งที่คิด สิ่งที่กระทำลงไป ตอนนี้เองก็ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เมื่อผ่านมาแล้ว 15 ปี คิดอะไรได้เยอะขึ้น อยากจะบอกกับพี่น้องสื่อมวลชนหนึ่งอย่าง ว่าอยู่ในเมืองไทยอาจไม่เห็นปัญหาเท่ากับการอยู่ต่างประเทศ มีมิติที่ดีในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
เมื่อถามว่าการกลับประเทศไทยครั้งนี้มีดีลลับหรือไม่ จักรภพบอกว่า เรื่องดีลฟังดูไม่ค่อยดี แต่ทุกอย่างที่ผ่านมาจนถึงบัดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีการพูดคุย เสมือนการพูดคุยเพื่อหาจุดร่วม แทนที่จะหาจุดต่างแล้วเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง แต่ที่สำคัญที่สุดการเมืองภาพใหญ่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ซึ่งตนพูดไม่ได้มากกว่านี้ สิ่งที่พัฒนาขึ้นจากเดิมที่ไม่สามารถพูดคุยกันได้ แต่ปัจจุบันก็พอพูดคุยกันได้
เมื่อถามถึงว่ารัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องในการกลับมาหรือไม่ จักรภพ ระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการพูดคุยกัน แม้กระทั่งกลุ่มผู้มีอำนาจที่เคยทำรัฐประหารด้วย ดังนั้นต้องย้อนกลับไป 9-10 ปี ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าสู่ภาวะอย่างไร
“มันเกิดขึ้นได้ เพราะฝ่ายประชาธิปไตยเข้มแข็งขึ้น ในขณะที่ฝั่งก่อรัฐประหารก็เบาบางลง พี่ขอใช้คำว่ากลับมารับใช้ประเทศไทย ซึ่งไม่จำกัดบทบาท การเมืองอาจเป็นหนึ่งในนั้น แต่ที่แน่นอนคือไม่ต้องการสร้างความวุ่นวายให้กับใครทั้งสิ้น ” จักรภพ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่ามีการพูดคุยการกลับประเทศกับใครว่า จักรภพ กล่าวว่าทุกคนในประเทศไทยไม่มีใครไม่รับรู้ผลกระทบระดับโลก สมัยก่อนเคยมีผู้ที่ใหญ่กว่า รวยกว่า ไม่ได้รับผล แต่ทุกวันนี้ทุกคนต่างประสบปัญหาร่วมกัน ฉะนั้นคนที่มาพูดคุยก็มาพูดผ่านพื้นฐานเรื่องนี้ว่าต้องแก้ปัญหาร่วมกัน
หากมีการทาบทามให้เข้าทำงานร่วมกับคณะรัฐมนตรีจะเข้าร่วมหรือไม่ ตอบว่ายินดีรับ แต่จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในพรรคการเมือง หากประเมินแล้วว่าการเข้าไปจะส่งผลถึงความขัดแย้งในพรรคการเมือง ก็จะขอทำงานอยู่เบื้องหลัง
ส่วนประเด็นก่อนหน้านี้ ว่ามีการพูดคุยกับ ทักษิณหรือไม่ ตนยืนยันว่าเคย แต่แต่ละคนก็ต้องทำการบ้านกันทั้งนั้น เพราะมีคดีคนละรูปแบบ ยัำว่าเป็นการพูดคุย ไม่ใช่เป็นการขอคำปรึกษา แต่ ทักษิณได้ฝากข้อความสำคัญไว้ว่า ยุคนี้หลายอย่างเปลี่ยนไปในที่ดีขึ้น ส่วนจะเข้าไปพบทักษิณหรือไม่ จักรภพ ยืนยันว่าไปพบแน่นอน แต่จะเป็นเมื่อไหร่นั้น ตนยังไม่ได้คิด แต่จะขอเป็นโอกาสแรกที่สามารถทำได้ เพราะคิดถึง และอยากถาม ทักษิณว่ามีความสุขดีหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าหลังจากนี้จะมีอดีตแกนนำ หรือผู้ลี้ภัยทางการเมืองกลับมาบ้างหรือไม่ จักรภพ ระบุว่า ตนขอเสนอตัวเป็นคนช่วยเหลือบุคคลที่อยากกลับประเทศแต่มีคดีทางการเมือง อาทิ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่กล่าวแบบนี้ไม่ใช่เลือกที่รักมักที่ชังแต่จะขอดูคดีความไป หากคดีความสามารถดำเนินการได้ง่ายก็จะช่วย ส่วนวิธีการช่วยเหลือคือความมั่นใจในฐานะที่ตนเองเดินทางเข้ามาก่อน เปรียบเสมือนหนูทดลองยา จะรวมถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น ระบุว่าเท่าที่ทราบอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีจำนำข้าว ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าท่านก็อยากกลับบ้านเหมือนทุกคน แต่ตนคงไม่มีสติปัญญามากพอที่จะไปช่วยในระดับนั้น
โดยหลังจากนี้สิ่งที่จะทำเป็นอันดับแรกคือการไปกราบร่างแม่ที่ยังไม่ได้รับการฌาปนกิจ ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ส่วนบิดาแม้ว่าจะฌาปนกิจไปแล้ว ก็จะไปกราบที่บ้านของน้องชายต่อไป
ช่วงท้าย จักรภพกล่าวถึงกรณีการทำงานของรัฐบาลเศรษฐาว่า ตนเห็นบทบาทของเศรษฐา ว่าไม่ค่อยเห็นนายกรัฐมนตรีที่ลุยทำงานอย่างเดียว ขอทำงานไปข้างหน้าก่อน แล้วค่อยมาดูบทสรุปภายหลัง ตนก็คิดว่าเป็นทัศนะที่ดี เพราะถ้าเราท้อถอยเรื่องหนึ่งแล้วทำอีกเนื่องหนึ่ง นายกรัฐมนตรีมีข้อเด่นสำคัญคือเคยบริหารงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ระดับที่บริการได้ที่เดียว 10-20 โครงการ เป็นคนที่มีหยักในสองเยอะ ส่วนจะมีคำแนะนำกับนายกรัฐหรือไม่ จักรภพ ระบุว่าไม่มี แต่อยากเสริมสองเรื่อง ซึ่งสุดแล้วแต่ท่านว่าจะรับหรือไม่
คือการจับตามองความเปลี่ยนแปลงในระดับนานาชาติ เรื่องนี้ทิ้งไม่ได้ ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องที่ช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีแนวทางและสิธีในการสู้ชีวิตทางเศรษฐกิจ ซึ่งตนก็เห็นว่ารัฐบาลกำลังทำเรื่องนี้อยู่ ส่วนจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ ตนมองว่าเป็นธรรมดาของการต่อสู้ทางการเมือง รัฐบาลทำดีก็มีคนชม ทำไม่ดีก็มีคนด่า คนติ และในปัจจุบันนี้เราก็มีฝ่ายค้านที่ดีกว่ายุคก่อน ทั้งสองอย่างนี้เองก็หนุนเสริมกัน
ด้านกระบวนการยุติธรรม โชคชัย อ่างแก้ว ในฐาะทนายส่วนตัวระบุว่า วันนี้ จักรภพ ได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ใช้หลักทรัพย์คดีละ 200,000 บาท
โปรโมทโพสต์นี้เพื่อเข้าถึงผู้คนมากขึ้นสูงสุดถึง 55414 คนหากคุณใช้จ่าย ฿12,831
แหม รัฐมนตรียุติธรรมก็คนกันเอง
คุณกำลังแสดงความคิดเห็นด้วยชื่อ Wa Wa
·
LIVE! กมธ.การต่างประเทศ แถลงข้อเสนอแก้ปัญหา ‘ผีน้อย‘ เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น
0:00 / 15:31
โปรโมทโพสต์นี้เพื่อเข้าถึงผู้คนมากขึ้นสูงสุดถึง 8019 คนหากคุณใช้จ่าย ฿700
ร่วมกดส่งดาวเพื่อเป็นกำลังใจ และสนับสนุน Voice TV ได้นะคะ
ขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มอบให้ทีมงานค่ะ
คุณกำลังแสดงความคิดเห็นด้วยชื่อ Wa Wa
·
'ปานปรีย์' เผย 'วีซ่าเชงเก้นเข้ายุโรป' คืบหน้า เชื่อจบทันรัฐบาลนี้ - จ่อบินญี่ปุ่น ถกประเด็นยกเลิกฟรีวีซ่า แจงปมคนไทยอยู่เกินเวลา บอกไม่ทำผิดร้ายแรง วอน ปชช.อย่าทำผิดกฎหมาย
วันที่ 28 มี.ค. ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวอาจมีการพิจารณายกเลิกฟรีวีซ่าคนไทยเข้าประเทศญี่ปุ่น ว่า เราก็ยังมีความเป็นห่วง ซึ่งเราขอความกรุณาคนไทย เมื่อไปต่างประเทศอย่าทำผิดกฎหมายของเขา เพราะถ้าเราทำผิดกฎหมายของเขา เขาก็มีส... ดูเพิ่มเติม
โปรโมทโพสต์นี้เพื่อเข้าถึงผู้คนมากขึ้นสูงสุดถึง 8019 คนหากคุณใช้จ่าย ฿700
คุณกำลังแสดงความคิดเห็นด้วยชื่อ Wa Wa
·
นายกฯ หนุนสภาฯ พิจารณากฎหมายเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หวังยกธุรกิจสีเทา มาอยู่บนพื้นดิน ชี้ฝ่ายปกครอง-ความมั่นคง ควบคุมดูแล บอกต้องยอมรับความจริงมีสังคมอีแอบ แต่จะทำอย่างไรให้ถูกกฎหมาย
วันที่ 28 มี.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีวันนี้ที่สภาผู้แทนราษฎร จะมีการพิจารณารายงานการศึกษาเรื่องการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (entertainment complex ) เพื่อแก้ไขปัญหาการพนันผิดกฎหมายฯนั้น ส่วนตัวมองว่าจะสามารถกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง ... ดูเพิ่มเติม
โปรโมทโพสต์นี้เพื่อเข้าถึงผู้คนมากขึ้นสูงสุดถึง 8019 คนหากคุณใช้จ่าย ฿700
·
ไม่แปลกใจ จะทำตั้งแต่ยิ่งลักณ์แล้ว แต่เจอฝั่งประยุทธประทวง ตอนนี้ รวมกันแล้วไม่มีใครขัดแล้ว
คุณกำลังแสดงความคิดเห็นด้วยชื่อ Wa Wa