ไม่พบผลการค้นหา
เครือข่ายเยาวชน จี้ ศาลปกครอง ยกเลิกกัญชาเสรี /ขอบคุณ ‘ชูวิทย์’ กล้าหาญเหมือน ‘แบทแมน’ สู้กับมาเฟีย ชวนโหวตพรรคไม่เอากัญชาเสรีช่วงเลือกตั้ง ยันไม่ได้พาดพิง ภท. แค่ไม่เห็นด้วยกับนโยบาย

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กลุ่มเครือข่ายเยาวชนไม่นะกัญชาและยาเสพติด หรือ YNAC ยื่นหนังสือถึงศาลปกครอง เพื่อให้พิจารณาทบทวนการปลดกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 

โดย ยศกร ขุนภักดี ผู้ประสานงาน YNAC กล่าวว่า เราทราบว่ามีคดีฟ้องร้องต่อศาลปกครอง โดย นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ กรรมการแพทยสภา และนายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ส.ส. 5 พรรคฝ่ายค้าน ที่ได้ยื่นฟ้อง อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีส่าการกระทรวงสาธารณสุข และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อขอให้ศาลมีคําพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 8 ก.พ. 2565 ที่ถอดกัญชา ออกจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2565 

อย่างไรก็ดี ศาลได้ปัดตกคำฟ้องคดีดังกล่าวไป โดยให้เหตุผลว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้ทางกลุ่มหวั่นเกรงและเป็นห่วงว่า ต้องให้ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงมาฟ้องเท่านั้นจึงจะเกิดผลใช่หรือไม่ เพราะหากติดตามข่าว จะเห็นว่าผู้ได้รับผลกระทบส่วนมากเป็นเยาวชน จึงต้องการเร่งรัดให้ศาลทบทวนคำร้องของ นพ.สมิทธิ์ เพราะสังคมเดือดร้อนมาก

ที่ผ่านมา เด็กและเยาวชนเสี่ยงอันตรายจากสภาวะกัญชาเสรี แม้ว่าจะมีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม(กัญชา) พ.ศ 2565 ในเบื้องต้น แต่ในความเป็นจริง เยาวชนกลับถูกจับเป็นตัวประกันด้วยนโยบายกัญชาเสรี มองว่า รัฐบาลควรออกกฎหมาย หรือ พ.ร.บ. ควบคุมการใช้กัญชาให้ครอบคลุมเรียบร้อยเสียก่อน ก่อนที่จะปลดล็อกให้มีกัญชาเสรีได้ 

นอกจากนี้ การที่ ร่าง พ.ร.บ. กัญชาฯ ไม่ผ่านสภา ทำให้เกิดภาวะสุญญากาศ ไม่มีมาตราการรองรับ ส่งผลให้มีการใช้กันอย่างเสรีแน่นอน อย่างที่เราเห็นตามตลาดหรือท้องถนนโดยทั่วไป หากจะกำหนดให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ ก็ต้องให้แพทย์เป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น ถึงจะมีประสิทธิภาพเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ ไม่ใช่เอามาใช้กันได้เลยตามอำเภอใจ 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา YNAC ได้ไปยื่นหนังสือต่อรัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมรายชื่อประชาชน 15,432 รายชื่อ แสดงจุดยืนสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ แต่คัดค้านกัญชาเสรี แต่ก็ไม่เกิดผล จึงหวังให้การมาศาลปกครองครั้งนี้ ศาลจะเป็นฮีโร่ของประชาชน เพราะเป็นที่พึ่งหวังสุดท้าย ไม่เหลือใครอีก

พร้อมกันนี้ ต้องการขอบคุณ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่กล้าออกมาพูดเรื่องกัญชาอย่างตรงไปตรงมาด้วย เสมือนเป็น ‘แบทแมน’ ที่คอยออกมาต่อสู้กับเหล่ามาเฟียครองเมือง และในช่วงของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น อยากรณรงค์ให้ทุกฝ่ายสนับสนุนพรรคการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรี ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการพาดพิงหรือกล่าวโทษใครทั้งสิ้น พวกตนเพียงแค่ไม่เห็นด้วยกับตัวนโยบายเท่านั้น ถ้าหากพรรคการเมืองที่ทำนโยบายนี้เกิดเปลี่ยนใจและยกเลิกนโยบายหลังได้ฟังเสียงประชาชน ก็รู้สึกขอบคุณ.