จากการนับคะแนนเสียงเกือบทั้งหมด เออร์โดกันได้รับคะแนนเสียง 52.14% ในการเลือกตั้งรอบที่สองเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 พ.ค.) เอาชนะ เคมัล คิลิกดาโรกลู ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเออร์โดกัน ซึ่งได้รับคะแนนเสียงไป 47.86% ทั้งนี้ ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการของตุรเคีย คาดว่าจะออกในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้ ทำให้เออร์โดกันผูกขาดอำนาจการปกครองตุรเคียเป็นประวัติการณ์ โดยในขณะที่เออร์โดกันทำการขยายอำนาจการปกครอง 20 ปีของเขาออกไปอีก 5 ปีจากผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ เออร์โดกันจะครองเก้าอี้ประธานาธิบดีตุรเคียแซงหน้า มุสตาฟา เคมัล อตาเติร์ก ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกี ที่ปกครองประเทศนานกว่า 15 ปี
เออร์โดกันปรากฏตัวบริเวณนอกบ้านของเขาในพื้นที่อูสคูดาร์ของนครอิสตันบูล โดยเออร์โดกันได้ร้องเพลงก่อนที่จะขอบคุณฝูงชนที่มาชื่นชมกับชัยชนะของเขา “เราเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบที่สองโดยได้รับความกรุณาจากประชาชนของเรา” เออร์โดกันกล่าว “พระเจ้าเต็มใจ เราจะคู่ควรกับความไว้วางใจของคุณเหมือนที่เราได้รับมาตลอด 21 ปีที่ผ่านมา”
เออร์โดกันกล่าวเสริมว่า พลเมืองตุรเคียทั้ง 85 ล้านคนของประเทศเป็น "ผู้ชนะ" ของการลงคะแนนเสียงสองรอบในวันที่ 14 พ.ค. และ 28 พ.ค.
หลังจากนั้น เออร์โดกันได้เดินทางมุ่งหน้าไปยังกรุงอังการา ซึ่งเขาพูดกับผู้สนับสนุน ณ บริเวณทำเนียบประธานาธิบดี เขาได้แสดงความยินดีกับมวลชน และระบุว่าปัญหาเร่งด่วนที่สุดที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้คือภาวะเงินเฟ้อ ก่อนจะระบุเสริมว่าปัญหาดังกล่าวไม่ใช่ปัญหาที่ยากเกินกว่าจะแก้ไข
เออร์โดกันยังกล่าวเสริมว่าการรักษาบาดแผลจากเหตุแผ่นดินไหวในเดือน ก.พ. และการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ และเมืองที่ถูกทำลายจากภัยธรรมชาติขึ้นใหม่นั้น จะยังคงเป็นนโยบายที่อยู่ในลำดับความสำคัญของเขา “หัวใจและมือของเราจะยังคงอยู่ในบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหว” เออร์โดกันกล่าว
ในความคิดเห็นแรกของคิลิกดาโรกลู หลังจากที่เห็นได้ชัดว่าเออร์โดกันจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไป คิลิกดาโรกลูกล่าวว่าเขาจะสานต่อ “การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” ทั้งนี้ คิลิกดาโรกลูยังคงไม่ประกาศการลาออก เพื่อรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้การเลือกตั้งในครั้งนี้
“วิธีการทั้งหมดของภาครัฐถูกระดมมาเพื่อช่วยพรรคการเมืองเดียว และอยู่ภายใต้เท้าของชายคนหนึ่ง” คิลิกดาโรกลูกล่าว “ผมขอขอบคุณหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรแห่งชาติ องค์กรของพวกเขา ผู้มีสิทธิเลือกตั้งของเรา และพลเมืองที่ปกป้องหีบบัตรเลือกตั้ง และต่อสู้กับแรงกดดันที่ผิดศีลธรรม และไม่ชอบด้วยกฎหมายเหล่านี้”
ที่มา: