ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ประชุม ครม.สัญจรครั้งแรก หลังปรับ ครม.-ผ่อนคลายโควิด-19 ยืนยัน รัฐบาลสนับสนุนทุกกิจกรรม ขอให้ใช้เหตุและผล ด้าน 'กลุ่มขอคืนไม่ได้ขอทาน' บุกเดี่ยวทวงถามผลคืนเงินสมทบชราภาพ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2563 ซึ่งถือเป็นการประชุมครม.สัญจร ครั้งแรกหลังการปรับคณะรัฐมนตรีและการผ่อนคลายสถานการณ์โควิด-19 

โดยทันทีที่เดินทางมาถึงนายกรัฐมนตรี ได้ทักทายสื่ออย่างอารมณ์ดี พร้อมกล่าวว่า "สวัสดีจ้ะ นอนหลับสบายดีนะจ๊ะ"

ประชุมครมสัญจร ระยอง.jpg


อย่างไรก็ตามก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการ ผลิตภัณฑ์ กศน. พรีเมี่ยม ภายใต้แบรนด์ ONE (ระยอง, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี) ชมผลงานนวัตกรรม : แอปพลิเคชัน depa 2.5 โครงการพัฒนาระบบท่าเรืออัจฉริยะ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง โครงการพัฒนาการจัดการคลังสินค้าวิสาหกิจชุมชนบ้านเนินสว่าง (ผลิตภัณฑ์ยางพารา) โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมเยี่ยมชมประโยชน์อีอีซีส่งตรงคนพื้นที่ โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โครงการ Circular Living โดยกลุ่มบริษัท ปตท. และระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาหรือ iSEE 2.0 เพื่อรายงานสถานการณ์นักเรียนยากจนพิเศษที่เพิ่มขึ้นหลังได้รับผลการกระทบจากวิกฤตโควิด -19 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานสักขีพยานในโอกาสรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรือที่อยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราและผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ก่อนเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง) ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2563 

ทั้งนี้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึง ในเวลา 07.00 น. นสพ.บูรณ์ อารยพล ตัวแทนจากลุ่มขอคืนไม่ขอทาน ซึ่งเคยยื่นเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาลได้มาติดตามผลการคืนเงินสมทบชราภาพ จำนวน 30–50% ให้ผู้ประกันตน ในช่วงที่ได้รับความเดือดร้อน จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เรียกร้องขอให้แก้ไขกฎหมาย ประกันสังคม ให้สามารถเบิกเงินสมทบชราภาพออกมาได้ ก่อนอายุ 55 ปี และ ให้ผู้ประกันตนสามารถเลือกได้ว่าจะรับบำเหน็จหรือบำนาญ 

ประยุทธ์.jpg


สำหรับวาระการพิจารณาในที่ประชุม ครม.วันนี้ (25 ส.ค.) คาดว่าจะมีการเสนอปรับปรุงมาตรการการท่องเที่ยว 'เราเที่ยวไปด้วยกัน' โดยให้เพิ่มวันพักจากเดิม 5 เป็น 10 วัน และช่วยเหลือค่าตั๋วเครื่องบิน จากเดิมไม่เกินคนละ 1,000 บาท เป็นคนละไม่เกิน 2,000 บาท รวมถึงมาตรการช่วยเหลือจ้างงานเด็กจบใหม่ โดยจะขอให้รัฐอุดหนุนการจ้างแรงงานเด็กจบใหม่ในสัดส่วน 50% ของค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 1 ปี  

ส่วนการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม คาดจะเสนอความคืบหน้าและความก้าวหน้าของโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC รวมทั้งแผนการขยายพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชน โดยรอบสนามบินอู่ตะเภา รัศมี 30 กิโลเมตร และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำใน EEC เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำและน้ำท่วม รวมถึงแนวทางฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

'ประยุทธ์' ยืนยันสนับสนุนทุกกิจกรรม ขอให้ใช้เหตุ-ผล หวังลดความขัดแย้ง 

ทั้งนี้ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชมนิทรรศการการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก 3 จังหวัด (ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง) เพื่อสร้างฐานการลงทุนขนาดใหญ่ เป็นการเปิดประตูเศรษฐกิจ และเสริมสร้างการพัฒนาพื้นที่ EEC เชื่อมโยงระบบโครงสร้างพื้นฐาน และยกระดับชุมชน รวมถึงนิทรรศการสร้างงาน สร้างอาชีพ ของ กศน. ก่อนประชุม ครม.นั้น 

ประยุทธ์.jpg


เจ้าหน้าที่ได้แซวนายกรัฐมนตรีว่า ระวังของหาย นายกรัฐมนตรีจึงกล่าวว่าไม่มีอะไร อยู่ท่ามกลางประชาชนก็ปลอดภัย เชื่อมั่นสังคม เพื่อความสงบเรียบร้อยต่อไป ใครทำก็เป็นเรื่องของเขา โดยขอยืนยันว่ารัฐบาลนั้นให้กำลังใจและสนับสนุนในทุกกิจกรรม ทุกกระทรวง ลดความขัดแย้ง และขอให้คิดว่าจะทำอย่างไรให้เขาโตขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาเพราะรัฐบาลได้แก้ไขปัญหาทุกอย่าง ซึ่งก็ดีขึ้นตามลำดับเพราะทุกอย่างต้องพูดทั้งเหตุและผล ถ้าพูดแต่เหตุ แต่ไม่พูดผล แล้วจะทำอย่างไรในวันหน้า