นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึง กรณีที่ กกต. มีการจัดประชันนโยบายให้กับ 54 พรรคการเมือง โดยมีการจับสลากเลือกคำถาม และจับคู่พิจารณาจากจำนวนการส่งผู้สมัครของพรรคการเมือง ส่วนตัวมองว่า การจัดดีเบตโดย กกต. ที่ผ่านมาไม่เคยประสบความสำเร็จ และไม่มีประโยชน์ เพราะไม่มีคนฟัง ยกเว้นแค่ผู้สนับสนุน เวลานี้เวทีดีเบตควรจัดแบบเสรีเพราะมีสื่อจำนวนมาก แต่ยังขาดความน่าสนใจเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ไปร่วมดีเบต ซึ่งประชาชนอยากเห็นการตอบคำถามเมื่อถูกซักถาม และจะได้รู้ว่าเมื่อมีคู่แข่งจริงๆ จะพูดอย่างไร เพราะที่ผ่านมาพูดคนเดียวมาโดยตลอด 

ส่วนประเด็นที่ความพยายามยุบพรรคฝั่งประชาธิปไตย กรณีของพรรคฯ ยังขอไม่แสดงความเห็นใดใด ส่วนในกรณีพรรคการเมืองอื่น ที่กำลังถูกเล่นงานทั้งในตัวหัวหน้าพรรค รวมไปถึงยุบพรรค นายจาตุรนต์ ระบุว่า เป็นการใช้อำนาจของ คสช.และผู้ที่เกี่ยวข้องโดยไม่ชอบธรรม เพราะการที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐยังเป็นหนาหน้า คสช.อยู่ มีการใช้อำนาจที่เกี่ยวข้องไปดำเนินคดีเพื่อที่จะทำให้หัวหน้าพรรคติดคุก หรือยุบพรรคก็ทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากกลไกต่างๆ ต้องเกรงกลัว คสช. เพราะอยู่เหนือทุกองค์กร

ส่วนกรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศในประเด็นเพลงหนักแผ่นดิน ซึ่งมีบางถ้อยคำระบุว่า “นักการเมืองโจมตีกองทัพ ทำให้คนไม่ชอบทหาร ไม่ไว้วางใจกองทัพ กองทัพจะล่มสลาย ประเทศจะถูกทำให้อ่อนแอ” นายจาตุรนต์ ระบุว่า ผู้นำกองทัพไม่มีสิทธิโต้แย้ง หรือ วิพากษ์วิจารณ์ เพราะโดยระบบผู้นำกองทัพมีหน้าที่ทำตามคำสั่ง และนโยบายของรัฐบาล โดยในประเด็นปรับลดงบประมาณเป็นหน้าที่ตามความชอบธรรม ไม่ได้หมายความว่าไม่เห็นความสำคัญของกองทัพ ขณะเดียวกันพรรคการเมืองอื่นก็มีสิทธิที่จะเพิ่มงบประมาณของกระทรวงกลามโหมได้เช่นกัน