เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าผลการเลือกตั้ง อย่างไม่เป็นทางการ เขตเลือกตั้งที่ 1 ผลปรากฏว่า ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 1 เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย ได้ 44,712 คะแนน ชนะ พูนสุข โพธิ์สุ ภรรยาสหายแสง ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 1 เบอร์ 5 พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 33,977 คะแนน

เขตเลือกตั้งที่ 2 ดร.มนพร เจริญศรี ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 2 เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย ได้ 39,856 คะแนนชนะ สหายแสง ศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 นครพนม เบอร์ 3 พรรคภูมิใจไทยได้ คะแนน 30,528 คะแนน ถือว่าทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยชนะแบบขาดรอย ตามคาดหมาย หลังจาก ศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ทิ้งฐานที่มั่น จากเขต 1 ย้ายมาลงเขตเลือกตั้งที่ 2 เพื่อหวังล้มแชมป์เก่า ดร.มนพร เจริญศรี พรรคเพื่อไทย แต่ผิดหวัง พ่ายการเลือกตั้งสอบตกทั้งคู

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 ถือว่า พรรคภูมิใจไทย พลิกโผ นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 นครพนม เบอร์ 4 พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 41,738 แต้ม เอาชนะ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 นครพนม เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 28,966 แต้ม ถือว่าเกินความคาดหมาย ล้มแชมป์ 13 สมัย ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 นายชูกัน กุลวงษา ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 นครพนม เบอร์ 8 พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 25,253 แต้ม ชนะ ทนาย ณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 นครพนม เบอร์ 1 พรรคเพื่อไทย เกินความคาดหมาย ทำให้ พรรคภูมิใจไทย ชิงพื้นที่แชมป์เก่า เพื่อไทย ได้เกินความคาดหมาย ทำให้ นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ อดีต ส.ส. พรรคพลังแผ่นดิน รวมถึง นายชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย ที่เคยหันไปซบ พรรคพลังประชารัฐ แต่สอบตก ในการเลือกตั้ง เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ หันมาซบพรรคภูมิใจไทย และชนะการเลือกตั้ง ได้เกินคาดหมาย ส่วนภาพรวมการเลือกตั้ง ยังเป็นการช่วงชิงของ 2 พรรคใหญ่ คือพรรค เพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย ส่วนที่มาแรงอีกพรรค คือ พรรคก้าวไกล ที่รั้งอันดับสาม ส่วนใหญ่ทุกเขต จากพื้นที่ทั้ง 4 เขต ส่วนผู้มาใช้สิทธิเลือกตัั้งประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ประมาณ 5.6 แสนราย

ปแกร่งจริง มนพร แชมป์เพื่อไทย ชนะขาดลอย ดับฝันสหายแสงพร้อมเมีย

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อย่างไม่เป็นทางการ เขตเลือกตั้งที่ 1 เป็นตามคาด ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย ได้คะแนนมากกว่า 44,712 แต้ม ชนะการเลือกตั้ง คู่แข่ง คือ นางพูนสุข โพธิ์สุ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม เบอร์ 5 พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 33,977 แต้ม ห่างกันกว่าหมื่นแต้ม ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 ดร.มนพร เจริญศรี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นครพนม เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย อดีตแชมป์เก่า 4 สมัย ได้คะแนน 35,433 แต้ม ชนะการเลือกตั้งตามคาด ห่างคู่แข่งเกือบหมื่นแต้ม ป้องกันแชมป์ จาก สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 นครพนม เบอร์ 2 พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 26,547 แต้ม หลังยอมข้ามเขตจากพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 อ.ศรีสงคราม บ้านเกิด หวังมาลงสมัคร ส.ส. ล้มแชมป์เก่า เขตเลือกตั้งที่ 1 แต่ผิดคาด ดับฝันเคยประกาศจะสร้างนครพนมโมเดล เหมือนครูใหญ่เนวิน แต่ต้องผิดหวัง พ่ายการเลือกตั้ง รวมทั้งภรรยา คือ นางพูนสุข โพธิ์สุ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม เบอร์ 5 พรรคภูมิใจไทย 

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 พื้นที่แชมป์เก่าเพื่อไทย พลิกโผ นพ. อลงกต มณีกาศ ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 3 เบอร์ 4 พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 40,866 แต้ม ล้มแชมป์เก่า 13 สมัย คือ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 นครพนม เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 27,205 แต้ม

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 พลิกโผ ชูกัน กุลวงษา ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 4 นครพนม เบอร์ 8 พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 24,678 แต้ม ชนะ ณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 4 เบอร์ 1 พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 19,857 แต้ม ตกเป็นอันดับสาม ส่วนอันดับ 2 คือ ชาญชัย วงจำปา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 นครพนม เบอร์ 9 พรรคเสรีรวมไทย ได้คะแนน 20,045 แต้ม 

ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ ชูกัน กุลวงษา ได้กลับมามีตำแหน่งอีกครั้ง หลังจาก เคยเป็นอดีต ส.ส.แชมป์เก่า พรรคเพื่อไทย แต่เคยย้ายไปซบพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมา พ่ายการเลือกตั้ง และครั้งนี้ มารวมทีมกับ สหายแสง แต่พลิกโผ ชนะการเลือกตั้ง เนื่องจาก พรรคเพื่อไทย เจอปัญหาเลือดไหลไม่หยุด ชวลิต วิชยสุทธิ์ เคยเป็นอดีต ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย หันมาสังกัดพรรคไทยสร้างไทย สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 4 เบอร์ 5 ทำให้พรรคเพื่อไทย ต้องส่งผู้สมัครหน้าใหม่ คือ ณพจน์ศกร ลงชิงตำแหน่ง และพ่ายการเลือกตั้ง ได้เพียงคะแนน 19,857 แต้ม เป็นอันดับที่ 3 โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย นำโดยศุภชัยได้เคยประกาศที่จะกวาดที่นั่งทั้ง 4 เขต เพื่อยกนครพนมโมเดล ชูต้นแบบครูใหญ่เนวิน พัฒนา จ.นครพนม เทียบ จ.บุรีรัมย์ แต่ต้องยอมรับว่า พรรคก้าวไกลกระแสยังมาแรง มีคะแนนรั้งอันดับ 3 ทั้งเขต 1 เขต 2 และเขต 3