UNODC ระบุว่า สารสังเคราะห์ เช่น เฟนทานิล และเมทแอมเฟตามีน ครองพื้นที่ตลาดยาเสพติดที่ผิดกฎหมายมากที่สุดในโลก ทั้งนี้ ในช่วงทศวรรษนี้มีผู้ใช้ยาเสพติดทั่วโลกเพิ่มขึ้น 23% และมีการพบโรคผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการเสพยาเพิ่มขึ้น 45% ซึ่งนับเป็นตัวเลขกว่าเกือบ 40 ล้านคน
รายงานระบุอีกว่า ผู้ที่มีความผิดปกติทางสุขภาพจิต ผู้ที่มาจากภูมิหลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่ต่ำกว่า และคนหนุ่มสาว ล้วนเป็นกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการเสพยามากที่สุด โดยมีการพบว่าประชากรยุโรปตะวันออกและอเมริกาเหนือ มีความชุกของผู้เสพยาเสพติดด้วยเข็ม มากกว่าประชากรในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายงานยังพบอีกว่า เฟนทานิลได้เข้ามาครองพื้นที่ตลาดหลักของสารโอปิออยด์ ซึ่งเป็นสารในกลุ่มยาบรรเทาปวด ในพื้นที่อเมริกาเหนือ โดยตัวยาชนิดนี้มีผลลัพธ์ที่ร้ายแรงจากการเสพมันเข้าสู่ร่างกาย
ทั้งนี้ จากพื้นฐานทางข้อมูลจาก 18 ประเทศ รายงานได้ระบุว่าผู้ชายมีโอกาสที่จะเสพยาเสพติดด้วยเข็มมากกว่าผู้หญิงถึง 5 เท่า และพวกเขามีแนวโน้มจะแนะนำให้ผู้หญิงใช้ยาตามพฤติกรรมดังกล่าว อย่างไรก็ดี มีผู้เสพยาเพียง 1 ใน 5 คนเท่านั้น ที่สามารถเข้าถึงการรักษาได้ แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้หญิงที่เสพยากลับต้องเผชิญอุปสรรคในการเข้ารับการรักษา
UNODC ชี้ว่ามีเหตุผลมากมายที่ผู้คนหันมาใช้ยาเสพติดผ่านการฉีดด้วยเข็ม และพวกมันเกี่ยวพันกันกับการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ดี ผู้คนยังคงรู้สึกกลัวจากการลงโทษทางกฎหมาย การตีตราทางสังคม การขาดการดูแลลูก และความกลัวที่จะสูญเสียการดูแลลูก
กาดี วาลี หัวหน้า UNODC กล่าวว่าในหลายกรณี การรักษาจากการเสพติดสารเสพติดไม่ได้ผลสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับการรักษาเอง “เราจำเป็นต้องยกระดับการตอบโต้ขบวนการค้ายาเสพติดที่ใช้ประโยชน์จากความขัดแย้งและวิกฤตโลก ที่กำลังขยายการเพาะปลูกและการผลิตยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาสังเคราะห์ การกระตุ้นตลาดที่ผิดกฎหมาย และการก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้คนและชุมชนมากขึ้น” วาลีกล่าว
ที่มา: