พรรคเพื่อไทยจัดปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายที่อาคารกีฬาเวศน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ภายใต้แคมเปญ "เลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลาย เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล" ท่ามกลางประชาชนร่วมรับฟังแน่นอาคาร และมีแกนนำพรรคเพื่อไทยผลัดเปลี่ยนขึ้นปราศรัย ทั้งนี้บริเวณโดยรอบอาคารยังมีการขึ้นป้าย “เอาลุงคืนไป เลือกพรรคเพื่อไทยให้ถล่มทลายเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล”
นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังออกหวยบำเหน็จ หรือสลากการออมแห่งชาติ ซึ่งสามารถสะสมเงินได้ตั้งแต่อายุ 20 ปี หากไม่ถูกหวยสามารถจะนำเงินไปเข้าธนาคารกรุงไทยหรือธนาคารออมสินได้ ถ้าซื้อ 1,000 บาทก็นำเงินเข้าธนาคาร 1,000 บาท
การเลือกตั้งครั้งนี้ ท่านยังจะอยู่รัฐบาลเผด็จการต่อไปหรือจะออกจากเผด็จการ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มี ส.ส. ส.ว. 750 คน โอกาสจะสู้เขาจะเหนื่อยหน่อย แต่พรรคเพื่อไทยไม่เคยกลัว ท่านต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้ถล่มทลายสู้กับ ส.ว. 250 คนเพื่อไม่ให้อยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ต่อไป
“ถ้าลุงตู่ไม่มีที่ไป ท่านเคยบอกยางไม่มีที่ขายดาวอังคาร ก็ส่งท่านไปเป็นนายหน้าขายที่ดาวอังคาร การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกฝ่ายประชาธิปไตยกับเผด็จการ 24 มี.ค.เข้าไปก็กาตรงที่พรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลหากกฎหมายใดต้องการแก้ไขให้บอกมาที่พรรคเพื่อไทย”
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ระบุว่า อนาคตหลังเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรนั้นแต่เรามีคำถามว่าจะไล่อนาคตทันได้อย่างไร สำหรับเศรษฐกิจปัจจุบัน เป็นแข็งบน อ่อนล่าง จีดีพีไม่ลงมาที่คนระดับล่าง อีกทั้งแข็งนอก อ่อนใน เศรษฐกิจเน้นการส่งออก แต่เศรษฐกิจในประเทศอ่อนแอลงในช่วง 5 ปีที่ผ่าน และแต่ก่อนแข็งกว่านี้ ในอาเซียนเราเติบโตน้อยกว่าเพื่อนบ้าน ทำให้เศรษฐกิจปัจจุบันรวยกระจุก จนกระจาย สิ่งที่เกิดขึ้น การส่งออกชะลอตัว อนาคตเศรษฐกิจจะแย่ ถ้ารัฐบาลใหม่ไม่เก่งอยู่ไม่ได้ ดังนั้นต้องเอามืออาชีพไปบริหาร ขณะเดียวกันราคาพืชผลการเกษตรก็ตกต่ำ ไม่ใช่แจกบัตรคนจรแล้วจะหมดไป ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะซ่อมและสร้างประเทศใน 4 ปี
ที่เขาบอกว่าไม่สงบเขาทำกันเองทั้งนั้นแหละ พรรคเพื่อไทยเข้าใจประชาชน ส่วนหวยบำเหน็จจะตอบปัญหาสังคมผู้สูงวัยคือประเทศไทยจะมีสังคมผู้สูงวัย 20 % ถ้าเรารวมเงินที่เสียหวยทั้งหมดมาใช้ตอนอายุ 60 ปีก็จะมีเงินเป็นหลายแสนบาท ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยให้ถล่มทลาย
ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า เมื่อ27 ปีที่แล้วเป็นวันสำคัญของตนเอง เพราะวันที่ 22 มี.ค. 2535 ได้เป็น ส.ส.ครั้งแรก ทั้งนี้ ตนได้เกิดทางการเมืองที่กรุงเทพฯ และเมื่อเลือกตั้งจบครั้งนั้นก็มีตัวละครคล้ายกันในช่วงนั้นหลังมีรัฐประหารชื่อ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (รสช.) เหมือนตอนนี้ที่ชื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ครั้งนั้นมีการลุกขึ้นมาของประชาชนไม่ให้มีการสืบทอดอำนาจ
ขณะนั้น ตนเป็น ส.ส.แค่ 3 เดือนแห่งความโหด ได้เป็น ส.ส.ออกมาคัดค้านสืบทอดอำนาจ ทำให้พลังประชาชนชนะฝ่ายเผด็จการปี 2535 เส้นทางการเมือง 27 ปีไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ที่ทำให้พรรคเพื่อไทยอยู่ตรงนี้ได้เพราะประชาชน ทั้งนี้ 4 เดือนที่ผ่านมาได้เห็นความทุกข์ประชาชน
คุณหญิงสุดารัตน์ ยอมรับว่ายังไม่แน่ใจจะตั้งรัฐบาลภายใต้กลไกบิดเบือนได้หรือไม่ แต่ยืนยันขอเวลา 6 เดือนจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับประชาชน พร้อมย้ำ 30 บาทยุคใหม่จะทำโรงพยาบาลแบบบ้านแพ้วให้ได้ทุกจังหวัด 30 บาทยาดีไม่ต้องรอคิว นำแพทย์มาใส่ในมือถือนัดกันปรึกษากันผ่านโทรศัพท์มือถือไม่ต้องไปรอคิว ตอนปี 2545 มีคนป่วยมะเร็ง 54,000 คนแต่ตอนนี้คนป่วยมะเร็งกว่า 7 แสนคน พร้อมเพิ่มนักท่องเที่ยวให้ได้ 50 ล้านคนให้ได้รายได้ 2 ล้านล้านบาท
“ยิ่งบริหารแบบเผด็จการประเทศพัง อีกทั้งรัฐบาลนี้ใช้งบฯ ไป 13 ล้านล้านบาทตั้งแต่ประเทศไทยเคยมีมา 5 ปีมีแต่ถอยหลังอ้างความสงบที่เงียบสงัดค้าขายไม่ได้ทำให้คนทุกข์และจนลง พรรคเพื่อไทยจะคืนความสุขให้บนเศรษฐกิจที่ดี”
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวให้ถล่มทลาย เพราะวันนี้กติกาที่การสืบทอดอำนาจวางไว้ผ่านรัฐธรรมนูญ ปี 2557 ยึดอำนาจจากประชาชนผ่านปลายกระบอกปืน ปี 2562 ยึดอำนาจผ่านกติกาบิดเบี้ยวของรัฐธรรมนูญลายพราง เพราะมี ส.ว. 250 คนที่ประชาชนไม่ได้เลือก และทำไมถึงเลือกพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวให้ถล่มทลายเพราะต้องมีเสียงไปแย่งจัดตั้งรัฐบาลกับ ส.ว.250 คนที่อยู่ในกระเป๋าลุง เลือกตั้งต้องมียุทธศาสตร์ ถ้าอยู่แบบ 4-5 ปีไม่ไหวจึงต้องไปเลือกพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวให้ถล่มทลาย และต้องเลือกให้พรรคเพื่อไทยมีเสียงเพียงพอจัดตั้งรัฐบาล หากได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจทันทีใน 6 เดือนและต้องพอแล้วกับความขัดแย้ง ให้24 มี.ค. สร้างประวัติศาสตร์หยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช. ด้วยปลายปากกาของเรา
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ปราศรัยช่วงเวลาเดียวกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ ปราศรัยให้พรรคพลังประชารัฐที่สนามเทพหัสดิน โดยย้ำว่า พูดได้ไงความสงบจบที่ลุงตู่ ขณะที่อีกพรรคคือพรรคประชาธิปัตย์เสียมารยาท พร้อมโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ที่ตั้งรัฐบาลในค่ายทหารโดยดึง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหารของลุงตู่ ขณะเดียวกันขอเตือน พล.อ.ประยุทธ์ หากเป็นนายกฯ จะเจอตนในสภาที่เป็นฝ่ายค้านแน่นอน และขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จำจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกฯ เป็นตัวอย่างหากจะให้ ส.ว. 5ปีโหวตเป็นนายกฯ 2 สมัย หากพล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาล ตนจะยื่นกระทู้และญัตติทุกครั้งที่ประชุมสภา ตนเป็นตำรวจมีเจ้าหน้าที่รายงานมายังตนว่าพรรคเพื่อไทยชนะถล่มทลาย พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามายึดอำนาจบอกจะปฏิรูปการเมืองกลับไปเอารัฐธรรมนูญปี2520 มาใช้ และในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ลุงตู่ก็ไม่ได้บอกจะปราบยาเสพติดตรงไหน
“ถ้ารอบนี้ชนะไม่ขาด ผมจะไปจัดการลุงตู่ในสภา” ร.ต.อ.เฉลิม ระบุ