ไม่พบผลการค้นหา
'จตุพร' ชี้ จ่านิวถูกตีหัว เหมือนตีคนไทยทั้งประเทศ ท้าเดิมพัน ผบช.น. - นายกฯ จับคนร้ายทำจ่านิว ภายใน 7 วัน หากทำไม่ได้ ควรออกจากตำแหน่ง ด้านแม่นิว เผย อาการดีขึ้น คาด 6 เดือนสายตาจะมองเห็น ตัดปมหนี้-ชู้สาว เชื่อถูกตี เรื่องเคลื่อนไหวการเมือง

คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดเสวนาโต๊ะกลมและแสดงความคิดเห็นในเวที "ยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ" โดยมี รศ.ดร. พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคม นิด้า และประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) รศ.ดร.โคทม อารียา สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหิดล นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ต.อ วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร สถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สปยธ.) พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นางพะเยาว์ อัคฮาด แม่พยาบาลกมลเกด อัคฮาด นางพัฒน์นรี ชาญกิจ มารดาจ่านิว และนายรอมือละห์​ แซเยะ​ กรรมการบริหารพรรคประชาชาติ

โดยก่อนเสวนา นางพัฒน์นรี ชาญกิจ แม่จ่านิว ระบุถึงความคืบหน้าคดีและอาการ ของนายสิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว ว่าตำรวจได้ตัดประเด็นชู้สาวและหนี้นอกระบบ และได้ให้น้ำหนักไปที่เรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งล่าสุดอาการจ่านิว สามารถโต้ตอบกับแม่ได้ และอาการดีขึ้นโดยลำดับ โดยจะใช้เวลา 5-6 เดือน ตาจะเห็นมองได้ปกติ 

ขณะที่นายโคทม ระบุเห็นใจรัฐบาล กับเรื่องของจ่านิว พร้อมขอไม่อยากให้มีการจับแพะหรือเร่งทำสำนวนเกินไป ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฏหมาย ยอมรับว่ารัฐบาลเป็นเรือแป๊ะ ซึ่งเป็นอำนาจนิยมและมักจะมีการใช้ความรุนแรงกับผู้เห็นต่างทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2553 ถึงการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่ก็ไม่มีคำออกมารับผิดชอบ ดังนั้นการทำร้ายจ่านิว มีเหตุจูงใจทางการเมือง และเมื่อเปรียบรัฐบาลประยุทธ์ 2 เป็นเรือเหล็กจะต้องนำตัวคนทำผิดมาลงโทษให้ได้ ไม่อยากเห็นเรือนี้อัปปางเกิดกว่าเหตุ แต่ต้องการเห็นความยุติธรรมมากกว่า รวมถึงต้องลดการใช้ความรุนแรงทางสื่อโซเซียลด้วย 

นางพะเยาว์ อัคฮาด จากเหตุการณ์จ่านิว ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่ลูกสาว น.ส.กมลเกด อัคฮาด พยาบาลที่ถูกยิงเสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ปี 2553 ที่มีวาทกรรมจากเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ทำให้เกิดความเสียหาย และมองว่าจะต้องจับคนร้ายให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์คนที่เห็นต่างจากรัฐถูกกระทำ ดังนั้นความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชนไม่ว่าฝ่ายใดรัฐต้องรับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมาทางกลุ่มเรียกร้องทางการเมืองแบบสันติวิธี แต่สุดท้ายก็กลับโดนคดี และการที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย 5 ปี ที่ผ่านมา เป็นเพราะถูกกดขี่จากรัฐ พร้อมเรียกร้องให้แถลงความคืบหน้าคดีจ่านิว เพราะผ่านมา 7 วันแล้ว 

ส่วน พ.ต.อ วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร มองว่ากรณีจ่านิว ไม่ใช่ความรุนแรง แต่เป็นปัญหาอาชญากรรม ที่ต้องตั้งประเด็นสืบสวนสอบสวนรอบครอบ และเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องเป็นฝ่ายดูแลความปลอดภัยของประชาชน และเชื่อว่าคดีจ่านิว มาจากประเด็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง ส่วนจับได้ช้าหรือเร็วนั้นไม่สำคัญ แต่ต้องสรุปได้แล้ว รวบพยานหลักฐาน จากกล้องวงจรปิด เพื่อออกหมายจับ ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่เจ้าพนักงาน

นางอังคณา นีละไพจิตร มองว่า ภาพรวมการใช้ความรุนแรงในประเทศไทยสูงขึ้น และสังคมไทยก็เหมือนยอมรับโดยปริยาย ซึ่งการใช้ความรุนแรงจากรัฐ และผู้กระทำผิดก็มักจะลอยนวล นอกจากจะมีการทำร้ายก็จะมีการลดทอนความน่าเชื่อถือของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง 

ด้านนายจตุพร กล่าวว่า คดีจ่านิว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงจัง สามารถจับตัวได้แล้ว โดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังคนที่ก่อเหตุ รวมถึงตรวจสอบสัญญาโทรศัพท์ และนายกรัฐมนตรี ควรจะจริงจัง ไม่ใช่พูดตลกไปวันๆ ซึ่งการตีหัวจ่านิว เหมือนตีหัวคนไทยทั้งชาติ เพราะเป็นการตอกย้ำเรื่องการใช้ความรุนแรง และอย่าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เงียบและผ่านไป ซึ่งการที่รัฐบาลเป็นเรือเหล็กถือเป็นเรื่องดี เพราะจะมีจุดจบเร็ว เพราะเป็นปะการังเทียม เหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีกในเมืองไทย เพราะสุดท้ายผู้เสียชีวิตก็จะเป็นผู้ถูกโยนความผิด 

"นายกรัฐมนตรี ควรจะเป็นหัวเรือหลัก ไม่ใช่หัวเรือเหล็ก ในการแก้ยุติความรุนแรง และเห็นว่าคดีนี้ตำรวจสามารถจับกุมได้ แต่กลัวว่าถ้าจับแล้วจะสาวถึงผู้อยู่เบื้องหลัง ทำให้ตำรวจล่าช้าในการจับกุม และควรกำหนดกรอบเวลาให้จับกุมได้ พร้อมยกตัวอย่าง หากกำหนดภายใน 7 วัน เชื่อว่า ภายใน 3 วัน จะจับได้ ไม่เช่นนั้น ผู้บัญชาการตำรวจบาล ต้องรับผิดชอบ รวมถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวแถวของรัฐ ถ้าดูประชาชนไม่ได้ ก็ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป พร้อมพูดติดตลกว่า พลเอก อาจไปพร้อม จ่า ก็ได้ และหวังว่าสิ่งนี้จะไปถึงนายกรัฐมนตรี ที่ต้องมาบัญชาการด้วยตัวเอง" นายจตุพร ระบุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง