ไม่พบผลการค้นหา
กุมารแพทย์ชั้นนำของอังกฤษระบุว่า มีหลักฐานน้อยมากที่แสดงว่า หน้าจอสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตไม่ได้เป็นอันตรายกับเด็กอย่างที่คิด

มหาวิทยาลัยลอนดอนและราชวิทยาลัยกุมารเวชศาสตร์และสุขภาพเด็ก (RCPCH) ของอังกฤษกล่าวว่า พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการให้เด็กใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เนื่องจากแทบไม่พบหลักฐานว่าหน้าจอสมาร์ทดีไวซ์เป็นอั��ตรายกับเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี

จากการทบทวนผลวิจัยหลายชิ้นพบว่า ระยะว่าการอยู่ติดหน้ามีความเกี่ยวโยงกับโรคอ้วนและอาการซึมเศร้า ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่า เด็กผู้หญิงอายุ 14 ปีมีความเสี่ยงจะซึมเศร้าเมื่อใช้โซเชียลมีเดียมากกว่าเด็กผู้ชายในวัยเดียวกันถึง 2 เท่า

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยก็ยังไม่พบหลักฐานที่หนักแน่นพอจะบ่งบอกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตนานๆ เป็นสาเหตุของอาการเหล่านี้ อีกทั้งไม่มีหลักฐานที่ระบุว่า คนที่เป็นโรคอ้วนหรือมีอาการซึมเศร้าอยู่แล้วจะมีอาการหนักขึ้นเมื่อให้โรศัพท์และแท็บเล็ตนานขึ้น

RCPCH แนะนำว่า พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องกำหนดเวลาสำหรับการอยู่กับหน้าจอของเด็ก แต่ให้พิจารณาการใช้งานเครื่องมือเหล่านี้

  • สามารถควบคุมเวลาการใช้งานได้หรือไม่
  • การเล่นโทรศัพท์และเท็บเล็ตมาเบียดบังเวลานอน ออกกำลังกาย และใช้เวลากับครอบครัว จนกระทบต่อการพัฒนาของร่างกายเด็กหรือไม่
  • สามารถควบคุมการกินขนมระหว่างอยู่หน้าจอได้หรือไม่

ดร. แม็ก เดวี จาก RCPCH ระบุว่า โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตเป็นวิธีการที่ดีมากในการเปิดโลกทัศน์ เครื่องมือเหล่านี้ก็มีประโยชน์ต่อเด็กได้เช่นกัน แต่พ่อแม่มักคิดว่าการใช้เครื่องมือเหล่านี้เป็นเรื่อง "ผิดโดยที่ไม่สามารถอธิบายได้" ดังนั้น สามารถพ่อแม่สามารถตอบคำถามข้างต้นแล้วปกติดี ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร


ข้อควรระวัง

RCPCH ระบุว่า ผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์ แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์น้อยมาก เมื่อเทียบกับปัจจัยอื่นๆ เช่น การนอนหลับ การออกกำลังกาย การกิน การถูกกลั่นแกล้งและความยากจน ขณะเดียวกันเวลาก็ไม่มีหลักฐานที่บ่งบอกว่าระยะเวลาการใช้เครื่องมือเหล่านี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตแต่อย่างใด

RCPCH แนะนำว่า ไม่ควรให้เด็กใช้โทรศัพท์ แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ในช่วงก่อนนอน เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอจะกระทบกับการหลั่งสารเมลาโทนิน ทำให้นอนไม่หลับ และขณะนี้ ยังไม่พบว่า โหมดกลางคืนที่ลดแสงสีฟ้าของเครื่องมือเหล่านี้จะใช้ได้ผล ดังนั้น พ่อแม่จึงควรต่อรองกับเด็กเรื่องเวลาการอยู่หน้าจอจากความต้องการส่วนตัวของเด็ก ผลกระทบต่อการนอน สุขภาพ และการเข้าสังคม


ข้อแนะนำ

  • โต๊ะอาหารเป็นโอกาสที่ดีในการกำหนดพื้นที่ปลอดหน้าจอ
  • หากเด็กใช้โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์มากเกินไป พ่อแม่ควรเข้าไปเจรจาต่อรอง
  • พ่อแม่ควรคิดถึงพฤติกรรมการใช้เครื่องมือเหล่านี้ของตัวเองด้วยว่าพวกเขาใช้ติดหน้าจอโดยไม่รู้ตัวบ่อยเกินไปหรือไม่
  • เด็กเล็กต้องการปฏิสัมพันธ์กันต่อหน้าและหน้าจอไม่สามารถทดแทนปัจจัยในการพัฒนานี้ได้


ที่มา : BBC