คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร่วมกับ มนตรี ตั้งเจริญถาวร ส.ส. นนทบุรี พรรคเพื่อไทย การุณ โหสกุลส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทยและ สุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อมอบ สิ่งของจำเป็นสำหรับการอุปโภคบริโภค ทั้งข้าวสาร อาหารแห้งและน้ำดื่ม เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิค-19 รอบใหม่ พร้อมสอบถาม ถึงปัญหาความทุกข์ยากในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ ซึ่งหลายคนระบุตรงกันว่า นับแต่มีข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ส่งผล ให้การประกอบอาชีพได้รับผลกระทบอีกครั้ง การค้าขายมีผลต่อยอดการสั่งซื้อและการจับจ่ายใช้สอยของพี่น้องประชาชน ขณะที่หลายคนยังมีความยากลำบากนับแต่มีสถานการณ์การระบาดของไวรัส โควิด-19 ตั้งแต่ครั้งแรก จนถึงปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัวแต่ กลับต้องมาประสบ กับสถานการณ์ในลักษณะเดียวกันซ้ำเติม ให้เกิดความยากลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของภาระหนี้สินและรายได้ที่ไม่เพียงพอ กับรายจ่ายและการกินอยู่ในครอบครัว
อย่างไรก็ตาม โควิด-19 ที่เกิดขึ้นรอบใหม่นี้ ต้องไม่ประมาท เพราะจุดเริ่มต้นของการพบการระบาดครั้งนี้มีผู้ติดเชื้อเริ่มต้นถึงกว่า 500 ราย และระบาดขยายวงไปแล้วนับพันคนในหลายจังหวัด จึงต้องระมัดระวังและป้องกันตัวเองโดยการสวมหน้ากาก และหมั่นล้างมือ ทุกครั้งที่หยิบจับหรือ สัมผัส สิ่งของต่างๆ ขณะเดียวกันคุณหญิงสุดารัตน์ ยังให้กำลังใจพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ หลังต้องกลับมาเชิญกับวิกฤติด้านเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องอีกครั้ง จึงต้องฝากไปยังรัฐบาล ซึ่งเคยย้ำเตือนไปตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนแล้วว่า ต้องจัดสรรกำลังดูชายแดนด้านตะวันตก อย่าปล่อยให้มีการลักลอบของแรงงาน เข้ามาภายในประเทศ
แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ยังพบการรับผลประโยชน์เพื่อให้แรงงานเข้ามาภายในประเทศ โดยไม่ผ่านการกักตัวและตรวจตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และเห็นว่ากลไกของกำนันผู้ใหญ่บ้านที่ช่วยดูแล ตรวจตราแรงงาน จากเพื่อนบ้านมีศักยภาพและกำลังพลไม่เพียงพอ ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งแก้ไข และต้องเร่งตรวจหา ผู้ติดเชื้อให้มากที่สุดรวม โดยเฉพาะการจัดสรรหาสถานที่กักตัว 14 วัน ให้เพียงพอ ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับการสนับสนุน บุคลากรด้านสาธารณสุข เพื่อให้มีความพร้อมและเครื่องไม้เครื่องมือในการดูแลผู้ป่วย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาล