CNN Business รายงานว่า บริษัทเฟซบุ๊กประกาศจ่ายโบนัสพิเศษให้กับพนักงานประจำทั้งหมด 45,000 คนทั่วโลก คนละ 1,000 ดอลลาร์ หรือราว 32,270 บาท หรือคิดเป็นเม็ดเงินรวมทั้งสิ้นกว่า 1,452 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือพนักงานในการต่อสู้วิกฤตการระบาดใหญ่ไปทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 โดยเงินจำนวนนี้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดสถานที่เพื่อการทำงานจากที่บ้าน หรือค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรที่ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ตามปกติ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกรายงานโดย The Information เป็นที่แรก โดยเป็นการอ้างอิงแถลงการณ์จากมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก CEO ของเฟซบุ๊กในวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้ที่จะได้รับเเงินโบนัสพิเศษนี้ต้องเป็นพนักงานประจำของเฟซบุ๊กเท่านั้น ขณะที่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กยืนยันว่าจะยังคงจ่ายเงินได้รายชั่วโมงให้กับพนักงานในกลุ่มแม่บ้าน และคนที่ทำงานในโรงอาหาร ตามอัตราค่าจ้างปกติที่พวกเขาเคยได้รับ แม้ว่าจะมีการประกาศลดจำนวนชั่วโมงงานลงก็ตาม
Securities and Exchange Commission เปิดเผยว่า ในปี 2018 ค่าจ้างรายปีของเฟซบุ๊กที่จ่ายให้กับพนักงานแต่ละคนมีค่ามาตรฐานกลางเฉลี่ยอยู่ที่คนละ 228,651 ดอลลาร์ หรือราว 7,378,682 บาท ขณะที่ เชอร์รีล แซนด์เบิร์ก COO ของเฟซบุ๊กชี้ว่า
นอกจากเงินโบนัสคนละ 1,000 ดอลลาร์ที่พนักงานจะได้รับแล้ว เฟซบุ๊กจะทุ่มงบประมาณอีก 100 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 3,227 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กใน 30 ประเทศทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบหนักจากไวรัสโควิด-19 อีกด้วย
ปัจจุบันบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างออกมาตรการให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป เช่น ทวิตเตอร์ได้ประกาศให้พนักงานทุกคนทั่วโลกสามารถทำงานจากที่บ้านได้แล้ว ขณะที่กูเกิลขอให้พนักงานที่อยู่ในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลางทำงานจากที่บ้าน ขณะที่แอมะซอน ยังไม่ได้ประกาศให้ทุกคนทำงานที่บ้านอย่างเป็นทางการ แต่ขอให้คนที่สามารถทำงานที่บ้านได้ไม่ต้องเข้ามาที่ออฟฟิศ