กฎดังกล่าวได้รับการประกาศโดยกระทรวงเพื่อการเผยแผ่คุณธรรมและการป้องกันความชั่วของตาลีบัน จะกำหนดไม่ให้ผู้หญิงเดินทางเป็นระยะไกลเกินกว่า 72 กิโลเมตรด้วยตัวคนเดียว ทั้งนี้ ตาลีบันยังสั่งแบนการเปิดเพลงบนรถด้วย
อย่างไรก็ดี ผู้หญิงที่ต้องการจะเดินทางในระยะยาวนั้น พวกเธอจะต้องมีผู้ติดตามเป็นญาติผู้ชายไปด้วย ทั้งนี้ การแบนไม่ให้ผู้หญิงเดินทางด้วยรถในระยะไกลเพียงลำพังในครั้งนี้ เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้หญิงในอัฟกานิสถาน และกำลังส่งผลให้สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในอัฟกานิสถานย่ำแย่ลงไปกว่าเดิม
นอกจากนี้ เด็กหญิงระดับประถมศึกษาในอัฟกานิสถานยังคงถูกสั่งห้ามไม่ให้ไปเรียนในโรงเรียน และผู้หญิงหลายคนถูกห้ามไม่ให้ออกจากบ้านไปประกอบอาชีพ อย่างไรก็ดี Human Rights Watch ได้ออกมาระบุว่า กฎการจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้หญิงในอัฟกานิสถานของตาลีบัน กำลังจะทำให้ผู้หญิงอัฟกานิสถานมีสถานะไม่ต่างอะไรไปจากนักโทษ
คำสั่งดังกล่าว “ตัดโอกาส(ของผู้หญิง)ในการเดินทางอย่างอิสระ” หรือในอีกทางหนึ่งคือ “การหลบหนีหากประสบกับความรุนแรงในบ้าน” ฮีตเธอร์ บาร์ ผู้อำนวยการองค์การสิทธิมนุษยชนสตรีระบุกับสำนักข่าว AFP
“ฉันรู้สึกแย่มาก” ฟาติมา หญิงรายหนึ่งในกรุงคาบุลของอัฟกานิสถานระบุกับสำนักข่าว BBC “ฉันไม่สามารถออกไปไหนได้อย่างอิสระ ฉันควรจะทำยังไงถ้าระหว่างฉันหรือลูกป่วยและสามีไม่ว่าง ตาลีบันกักขังความสุขของเรา… ฉันเสียทั้งอิสรภาพและความสุขไป”
ยิ่งไปกว่านั้น เอกสารของตาลีบันระบุว่า เจ้าของยานพาหนะใดๆ จะต้องปฏิเสธการรับส่งผู้หญิงหากเธอไม่ยอมสวมผ้าคลุมหน้าหรือฮิญาบ อย่างไรก็ดี เอกสารไม่ได้กำหนดว่าผู้หญิงอัฟกานิสถานที่จะเดินทางด้วยรถ จะต้องใส่ผ้าคลุมชนิดใดได้บ้าง ทั้งนี้ ผู้หญิงส่วนใหญ่ในอัฟกานิสถานเริ่มสวมผ้าคลุมผมมาตั้งแต่ตาลีบันเข้ายึดประเทศ เพราะพวกเธอต่างหวาดกลัวกองกำลังติดอาวุธเคร่งศาสนา
กฎการสั่งแบนต่างๆ ต่อผู้หญิงในอัฟกานิสถานของตาลีบัน ได้รับการอ้างจากกลุ่มตาลีบันว่าถูกกำหนดขึ้นมาเพียง “ชั่วคราว” เพื่อทำให้มั่นใจว่า ผู้หญิงจะมีสภาพแวดล้อมทั้งการเรียนรู้และสถานที่ทำงานที่ “ปลอดภัย” ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตาลีบันเพิ่งสั่งห้ามนักแสดงผู้หญิงออกโทรทัศน์ และผู้สื่อข่าวหญิงจะต้องสวมผ้าคลุมขณะรายงานข่าวตลอดเวลา
สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในอัฟกานิสถานกำลังตกต่ำลงเรื่อยๆ หลังตาลีบันเข้ายึดครองประเทศ นอกจากนี้แล้ว ตาลีบันยังถูกนานาชาติคว่ำบาตรทางการเมืองและเศรษฐกิจ จนทำให้ประเทศอัฟกานิสถานเริ่มเกิดความขัดสนทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ตาลีบันได้เรียกร้องให้ประชาคมโลกเลิกคว่ำบาตรตน เพราคนที่ได้รับผลกระทบจริงๆ คือประชาชน พร้อมเรียกร้องให้ต่างชาติส่งความช่วยหลือเข้ามายังอัฟกานิสถานด้วยเช่นกัน
ที่มา: