คำเชิญดังกล่าวมาในจดหมายจากสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซาอูด พระมหากษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบีย แต่การรายงานดังกล่าวของอิหร่าน ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางการซาอุดีอาระเบีย ทั้งนี้ ภูมิภาคตะวันออกกลางถูกครอบงำด้วยความเป็นปรปักษ์ระหว่างอิหร่านกับซาอุดีอาระเบีย ก่อนที่จะมีจีนเป็นตัวกลาง ในการเชื่อมสัมพันธ์ของทั้งสองใหม่อีกครั้ง ซึ่งอาจเปลี่ยนรูปแบบภูมิรัฐศาสตร์ของภูมิภาคไปจากเดิมอย่างรุนแรง
โมฮัมหมัด จามชีดี เจ้าหน้าที่อาวุโสของอิหร่าน ทวีตข้อความเกี่ยวกับคำเชิญให้ประธานาธิบดีอิหร่าน เดินทางไปเยือนเมืองหลวงของซาอุดีอาระเบียอย่างกรุงริยาด โดยจามชีดีกล่าวว่า ไรซีรู้สึกยินดี และต้องการ "เน้นย้ำถึงความพร้อมของอิหร่าน ในการขยายความร่วมมือ" กับซาอุดีอาระเบีย
โฮสเซน อาเมียร์-อับดุลลาเฮียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะจัดการประชุมในระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และมีการเสนอสถานที่ 3 แห่งที่เป็นไปได้ โดยเขาไม่ได้ระบุชื่อสถานที่ และไม่ได้บอกว่าการประชุมจะเกิดขึ้นเมื่อใด
ความสัมพันธ์ทวิภาคีของอิหร่านกับซาอุดีอาระเบียที่พัฒนาขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด หลังจากการเจรจาโดยจีนหลายวัน และดูเหมือนผลการประชุมจะสร้างแรงผลักดันอย่างจริงจัง โดยทั้งสองได้ประกาศว่า พวกเขาจะเปิดสถานทูตอีกครั้งภายใน 2 เดือน และสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและความมั่นคงอีกครั้ง ในขณะที่การรื้อฟื้นความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ได้รับความยินดีอย่างระมัดระวังจากหลายๆ ประเเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ และสหประชาชาติ เนื่องจากความพยายามในการประนีประนอมก่อนหน้านี้ไม่ประสบผลสำเร็จ
ซาอุดีอาระเบียตัดความสัมพันธ์กับอิหร่านในเดือน ม.ค. 2559 หลังจากผู้ประท้วงบุกสถานทูตในกรุงเตหะราน สืบเนื่องจากการที่ทางการซาอุดีอาระเบียได้ประหารชีวิตเชค นิมร์ อัล-นิมร์ อิหม่ามมุสลิมนิกายชีอห์คนสำคัญ ซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความตึงเครียดระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ใต้ความขัดแย้งระหว่างศาสนาอิสลามนิกายซุนนีและชีอะห์ มักจะเกิดขึ้ยอยู่ในระดับที่สูง โดยต่างฝ่ายต่างมองว่าอีกฝ่ายเป็นพลังคุกคาม ที่แสวงหาอำนาจครอบงำในภูมิภาค นอกจากนี้ รัฐต่างนิกายของอิสลามยังอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับความขัดแย้งในภูมิภาคหลายแห่ง รวมถึงสงครามกลางเมืองในซีเรียและเยเมน
อาเมียร์-อับดุลลาเฮียนยังกล่าวด้วยว่า อิหร่านหวังว่าจะมีขั้นตอนต่างๆ เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์กับบาห์เรน ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของซาอุดีอาระเบีย ที่ติดตามการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตของซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านในปี 2559 "เราหวังว่าอุปสรรคบางอย่างระหว่างอิหร่านและบาห์เรนจะถูกขจัดออกไป และเราจะดำเนินการขั้นพื้นฐาน เพื่อเปิดสถานเอกอัครราชทูตอีกครั้ง" อาเมียร์-อับดุลลาเฮียนกล่าว
อย่างไรก็ดี บาห์เรนไม่ได้ตอบสนองต่อความคิดเห็นของอิหร่าน แต่ก่อนหน้านี้ บาห์เรนได้ออกมาแสดงความยินดีต่อข้อตกลงอิหร่าน-ซาอุดีอาระเบีย เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต นอกจากนี้ อิหร่านยังแสดงความเต็มใจที่จะกลับมาดำเนินการ หรือปรับปรุงความสัมพันธ์กับคู่แข่งในภูมิภาคอาหรับอื่นๆ รวมถึงจอร์แดนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อีกด้วย
ที่มา: