ไม่พบผลการค้นหา
หน่วยงานกำกับยาของสหราชอาณาจักรเปิดเผยเมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) ว่า ทางการได้รับรองวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นาที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เพื่อใช้กับการตอบรับกับเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ โดยตัววัคซีนจะยังคงใช้รับมือกับเชื้อเดิมก่อนหน้าด้วยเช่นกัน

หน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (MHRA) ของสหราชอาณาจักร ออกมาเปิดเผยว่า ทางหน่วยงานได้รับรองวัคซีนเข็มกระตุ้นของโมเดอร์นา ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่สำหรับผู้ใหญ่ ตามมาตรฐานของสหราชอาณาจักรทั้งความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิผลแล้ว นับเป็นวัคซีนโควิด-19 ชนิด “ไบเวเลนต์” ตัวแรกที่ได้รับรองจากหน่วยงานของสหราชอาณาจักร

จูน เรน หัวหน้าผู้บริหาร MHRA ระบุว่า จากข้อมูลในช่วงการทดลองทางคลินิกพบว่า วัคซีนตัวดังกล่าวสามารถสร้าง “การตอบรับทางภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง” เพื่อรับมือกับโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมและโอไมครอน ซึ่งจะช่วย “ลับคมเครื่องมือในการป้องกันพวกเรา” จากเชื้อไวรัสที่ยังคงกลายพันธุ์อยู่เรื่อยๆ อย่างโควิด-19

สเตฟาน บองเซล ผู้บริหารสูงสุดของโมเดอร์นาได้ออกมาระบุว่า ทางบริษัทรู้สึก “ยินดี” จากผลการรับรองดังกล่าวของทางการสหราชอาณาจักร พร้อมเน้นย้ำว่าการรับรองในครั้งนี้เป็น “การรับรองครั้งแรกของวัคซีนไบเวเลนต์เชื้อโอไมครอน”

ปัจจุบัน เชื้อโอไมครอนเป็นเชื้อที่แพร่ระบาดเป็นส่วนใหญ่ในบรรดาผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลก ในขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเน้นย้ำว่า การระบาดของโควิด-19 ยังคงห่างไกลจากจุดจบ ทั้งนี้ วัคซีนตัวใหม่ของโมเดอร์นา หรือที่มีชื่อเรียกว่า สไปค์แวกซ์ ไบเวเลนต์ ออริจินัล/โอไมครอน จะสามารถรับมือกับเชื้อไวรัสดั้งเดิมเมื่อปี 2563 และเชื้อกลายพันธุ์โอไมคอนครึ่งแรกอย่าง BA.1 ได้ดี

อย่างไรก็ดี MHRA ระบุว่า หน่วยงานพบว่าวัคซีนตัวใหม่ของโมเดอร์นานี้ สร้าง “การตอบรับที่ดี” ต่อสายพันธุ์ย่อยของโอไมครอนอย่าง BA.4 และ BA.5 โดยวัคซีนจะทำให้ผู้ที่ได้รับบางรายมีอาการข้างเคียง “ที่มักไม่รุนแรง” เช่นเดียวกันกับวัคซีนโมเดอร์นารุ่นแรก นอกจากนี้ หน่วยเฝ้าระวังด้านยาของสหภาพยุโรปกำลังทำการทดสอบคุณภาพวัคซีนใหม่ของโมเดอร์นาอยู่ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ หน่วยเฝ้าระวังด้านยาของสหภาพยุโรป กำลังทำการทดสอบคุณภาพของวัคซีนชนิดใหม่จากทางไฟเซอร์และไบโอเอนเทค ซึ่งคาดว่าจะได้รับการรับรองในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ โดยวัคซีนดังกล่าวได้รับการดัดแปลงเพื่อใช้ตอบรับกับเชื้อสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5

เชื้อโอไมครอนเริ่มระบาดขึ้นครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ก่อนที่จะมีการพบว่าเชื้อดังกล่าวมีอัตราในการแพร่ระบาดที่รวดเร็ว แต่ผู้ติดเชื้อมักไม่มีอาการรุนแรง อย่างไรก็ดี เชื้อโอไมครอนกลับสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้ที่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้ว เนื่องจากเชื้อกลายพันธุ์สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันร่างกายได้ดี โดยทั่วไปแล้วนั้น ผู้ติดเชื้อโอไมครอนมักมีเพียงแค่อาการไข้ เหนื่อยล้า และสูญเสียการได้กลิ่นชั่วคราว และเชื้อมักไม่ลงปอด


ที่มา:

https://www.channelnewsasia.com/world/uk-drug-regulator-approves-updated-moderna-vaccine-omicron-covid-19-variant-2881656