ไม่พบผลการค้นหา
บาทอ่อนเร็ว ผู้ว่าแบงก์ชาติยอมรับใช้ทุนสำรองระหว่างประเทศเข้าดูแลค่าเงิน ลดผลกระทบความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน ชี้ที่ผ่านมา ทุนสำรองระหว่างประเทศมีสะสมมาก เพื่อดูแลผลจากนโยบายการเงินในระดับโลกเปลี่ยนทิศ หลังธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ค่าเงินบาททำสถิติอ่อนค่ามากสุดรอบ 9 เดือน

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ธปท. ได้ใช้ทุนสำรองระหว่างประเทศเข้าไปดูแลลดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ทุนสำรองปรับตัวลดลง แต่ในบางครั้งการลดลงอาจจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงค่าเงินในเงินสกุลหลักๆ ที่ ธปท. ถืออยู่ เช่น กรณีที่เงินสกุลยูโรอ่อนค่าลง เมื่อตีมูลค่ากลับมาเป็นดอลลาร์สหรัฐ ในภาพรวมก็จะเห็นว่าทุนสำรองระหว่างประเทศมีมูลค่าลดลง      

"ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ธปท. สะสมทุน สำรองฯ ไว้ เพราะเชื่อว่า จะมีสถานการณ์อย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่นโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลักปรับทิศทาง โดยเปลี่ยนมาใช้นโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้มีความกังวลมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจโลก และอาจทำให้มีเงินไหลออกจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่ จึงเป็นช่วงที่ ธปท. ใช้เงินทุนสำรองฯ ที่สะสมไว้เป็นกันชนออกมาดูแลค่าเงินบาทเพื่อช่วยลดแรงปะทะจากนโยบายดังกล่าว ไม่ให้เกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจไทย และภาคธุรกิจไทย" นายวิรไท กล่าว          

อีกทั้งในโลกที่มีความไม่แน่นอน มีความซับซ้อนสูงขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างหลายอย่าง ธปท. มี 3 เรื่องสำคัญที่เป็นแนวนโยบายหลักใช้สำหรับการพัฒนาระบบการเงินในอนาคต คือ 1.ระบบการเงินไทยต้องมีผลิตภาพที่สูงขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน 2.ระบบการเงินต้องมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี มีเสถียรภาพที่ดีในระดับหนึ่ง มีกันชนรองรับการเปลี่ยนแปลง ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ และ 3.ประชาชนกลุ่มผู้มีรายได้น้อยจะต้องได้รับประโยชน์ซึ่งข้อนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญ      

ก่อนหน้านี้ ธปท. มีรายงานเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 29 มิ.ย.2561 อยู่ที่ 2.06 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงกลางเดือน (15มิ.ย.) ซึ่งอยู่ที่ 2.11 แสนล้านดอลลาร์ หรือลดลงราว 5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทค่อนข้างผันผวน โดยเมื่อวันที่ 12 ก.ค. เงินบาทเปิดตลาด ที่ระดับ 33.33 บาทต่อดอลลาร์ สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า ระหว่างวันทำสถิติอ่อนค่าสุดที่ระดับ 33.36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นระดับการอ่อนค่าสุดในรอบ 9 เดือน ก่อนจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยมา ปิดตลาดที่ระดับ 33.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ยังเป็นไปตามทิศทางของค่าเงินหยวน

ขณะที่ วันนี้ (13 ก.ค.) เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.19 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.26 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับสงครามการค้าประเทศมหาอำนาจนั้น ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ ธปท. ติดตามต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด แม้ไทยจะไม่ใช่เป้าหมาย แต่สินค้าจำนวนไม่น้อยของจีนมีมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เพราะมีสินค้าหลายอย่างที่หลายประเทศผลิตเป็นสินค้าที่ส่งเข้าไปประกอบเป็นสินค้าในประเทศจีน เพื่อส่งออกไปจำหน่ายประเทศอื่นจึงถือเป็นความเสี่ยงสำคัญที่เกิดขึ้น ไม่เพียงเฉพาะต่อเศรษฐกิจไทยเท่านั้น แต่รวมถึงเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่เป็นเศรษฐกิจเปิด และพึ่งพิงการค้าต่างประเทศสูง

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทิศทางกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติช่วง 6 เดือนแรก ที่ผ่านมายังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 5,727 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 3,482 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปัจจัยจากแรงกดดันของทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐที่จะปรับขึ้นอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ ส่งผลให้ดอกเบี้ยสหรัฐในช่วงปลายปีนี้จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.375 ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายไทยหากปรับขึ้น 1 ครั้งภายในปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 1.75 ซึ่งจะส่งผลให้ทิศทางเงินทุนต่างชาติยังมีโอกาสไหลออกจากตลาดเงินตลาดทุนไทย

ภาพจาก : Photo by NeONBRAND on Unsplash

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :