ไม่พบผลการค้นหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งกู้ระเบิดอีก 1 ลูก ที่ตู้เอทีเอ็มหน้าโรงแรมซีเอส ปัตตานี สรุปรวมเกิดระเบิดตู้เอทีเอ็ม 10 จุด ใน 4 อำเภอ ด้านแม่ทัพภาค 4 ระบุเป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมเก่า พร้อมเพิ่มการรักษาความปลอดภัยเข้มจากเดิม

พ.ต.อ.กีรติ แวยูโซะ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี กล่าวว่า วันนี้ (21 พ.ค.) เวลา 07.30 น. ได้รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่บนแป้นตัวเลขตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารออมสิน สาขาถนนหนองจิก ต.รูสะมิแล ตั้งอยู่หน้าโรงแรมซีเอส ปัตตานี จึงประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปตรวจสอบ และได้กันพื้นที่ไว้เพื่อความปลอดภัยและให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในกล้องเหล็ก และพบว่าระเบิดทำงานแล้วแต่ไม่สมบูรณ์ จึงนำไปตรวจสอบพบว่าระเบิดลูกดังกล่าว น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาไว้ที่ 19.00 น. เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและหารอยนิ้วมือแฝงเพื่อติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุต่อไป

ด้านความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิด ตู้เอทีเอ็ม ในเขตเทศบาลเมือง ทั้ง 6 จุดนั้น ทางชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและชุดพิสูจน์หลักฐานได้กระจายกันออกไปตรวจสอบในแต่ละจุด ให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ทางธนาคารได้เปิดทำการตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังคงกันพื้นที่เกิดเหตุไว้ก่อน ซึ่งจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุนั้น พบว่าทั้ง 6 จุดคนร้ายได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่องชนิดเดียวทั้งหมด มีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยการตั้งเวลา โดยแต่ละจุดเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ขณะที่การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางธนาคารนั้นพบว่า คนร้ายแต่งกายในลักษณ์ที่คลายกันเหมือนผู้หญิง เพื่อต้องการตบตาเจ้าหน้าที่ โดยบางจุดเป็นคนเดียวกันเนื่องจากธนาคารที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กัน ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุนั้น พบผู้ต้องสงสัยได้ขับรถจักรยานยนต์วนเวียนไปมาก่อนที่จะมีมือระเบิดนำระเบิดมาวางไว้แล้วรีบหนีออกจากไป ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้นประมาณ 5- 10 นาที

สรุปสถานการณ์เหตุลอบวางระเบิดตู้ เอทีเอ็ม ในพื้นที่ จ.ปัตตานี จำนวน 10 จุดใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง เขตเทศบาล จำนวน 6 จุด 

1.ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย ถ.ยะรัง ต.อาเนาะรู 

2.ตู้เอทีเอ็ม ธนาคาร ธกส. ถ.ยะรัง ต.อาเนาะรู และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ น.ส.สมพิศ สกุลจิตร และ น.ส.สมจิต ศรีสมบัติ ทั้งสองอาการปลอดภัย 

3. ตู้เอทีเอ็ม หน้าศูนย์พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ธนาคารอิสลาม สาขาปัตตานี ถ.พิพิธ ต.อาเนาะรู 

4.ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารออมสิน หน้าวิทยาลัยเทคนิคปัตตานี ถ.หนองจิก ต.รูสะมิ

5.ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนหนองจิก หน้าโรงแรมซีเอสปัตตานี 

6.กู้ระเบิดแสวงเครื่องได้ที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารออมสิน สาขาถนนหนองจิกหน้าโรงแรมซีเอสปัตตานี อ.สายบุรี จำนวน 2 จุด คือ ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารอิสลาม หน้าโรงเรียนศาสนาศึกษา ม.1 ต.ตะบิ้ง และ ตู้เอทีเอ็มกรุงไทย ในปั้มน้ำมัน พีที ม.10 ต.เตราะบอน, อ.หนองจิก 1 จุด คือ ตู้เอทีเอ็ม ธกส.สาขาหนองจิก ม.2 ต.ตุยง และ อ.ยะรัง 1 จุด คือ ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย หน้านิมิมาร์ท ม.3 ต.เขาตูม

ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา (20 พ.ค.) เกิดเหตุลอบวางระเบิดและปะทะกันอย่างน้อย 15 จุด พร้อมกันในพื้นที่ จ.สงขลา, ยะลา, นราธิวาส และปัตตานี โดยที่ จ.สงขลา เกิดเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็มที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. อ.จะนะ ส่งผลให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 

ที่ จ.ยะลา มีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า, ตู้เอทีเอ็ม, หน้าบ้านพักนิคมธารโต และกลุ่มคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ฐานปฏิบัติการ นปพ. จำนวน 1 จุด ไม่มีผู้บาดเจ็บ นอกจากนี้ยังพบวัตถุต้องสงสัยหน้า รพ.สมเด็จพระยุพราชยะหา เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้แล้ว  

ในเวลาไล่เลียกัน รับแจ้งว่า มีเหตุระเบิด บริเวณตู้เอเอ็ม กรุงไทย ธกส.ในเขตเทศบาลตำบลบันนังสตา จำนวน 4 จุด อ.ธารโต พ.ต.อ.ปริวรรต ขวัญมานิจ ผกก.สภ.ธารโต ได้รับแจ้ง มีเหตุระเบิดบริเวณที่จอดรถบ้านพักนิคมธารโต หลังทีตั้ง หมวด นปพ.31 อ.ธารโต จำนวน 1 จุดเป็นเหตุให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน ในเวลาเดียวกัน คนร้ายยิงเครื่องยิงระเบิด เอ็ม 79 ใส่ฐานปฏิบัติการ นปพ. จำนวน 1 จุด ไม่มีผู้ได้ได้รับบาดเจ็บ, ที่ อ.กาบัง ศูนย์วิทยุ สภ.กาบัง ได้รับแจ้งคนร้ายลอบวางระเบิด บริเวณหน้าตู้ เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย ภายในตลาดบันนังดามา ใกล้ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ม.1 ต.กาบัง จำนวน 1 จุด ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ที่ อ.ยะหา พ.ต.อ. ธวัช สุนทรพจน์ ผกก.สภ.ยะหา ได้รับแจ้ง ว่าพบวัตถุต้องสงสัย หน้าร้านสะดวกซื้อ หน้า รพ.สมเด็จพระยุพราชยะหา ถนนสายยะหา – ตาชี ม.6 ต.ยะหา จนท.ได้เก็บไว้ได้ เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก 5-7 กก. กดชนวนระเบิดด้วยตั้งเวลา

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ประวิตร ช่อเส้ง ผกก.สภ.เมืองยะลา ได้ระดมนำกำลัง ตำรวจ ทหาร ฝ่าย ปกครอง ออกตรวจสอบบริเวณที่ตั้ง ตู้เอทีเอ็ม ที่มีอยู่ทั้งหมด ในเขตตัวเมืองยะลา เพื่อป้องกันเหตุร้ายซ้ำสอง และให้ จัดกำลังสายตรวจ ตั้งด่านตรวจลอย ในเส้นทางเข้าเมืองยะลา ทุกเส้นทาง เน้นค้นหารถ จยย.แบบพ่วงข้าง ซึ่งการข่าว แจ้งว่าเป็นรถพาหนะในการก่อเหตุวางระเบิด ในพื้นที่ อ.รอบนอก พร้อมให้ตรวจบัตรประชาชน ค้นหาบุคคลตามหมายจับทุกราย พร้อมกับกำชับทุกหน่วย นำรถยนต์กันกระสุนในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความปลอดภัยตามคำสั่ง ของ ผบก.ภ.จว.ยะลา อย่างเคร่งครัด

ภายหลังเกิดเหตุ พล.ท.ปิยวิฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบตู้เอทีเอ็มทั้ง 4 จุด ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีแล้ว โดยระบุว่า เหตุระเบิดไม่เกิดมา 5-6 ปีแล้ว กลุ่มที่ก่อเหตุเป็นการก่อเหตุเพื่อแสดงศักยภาพ เป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมรุ่นเก่า ไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ ตอนนี้รู้ตัวผู้กระทำแล้ว รอรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ ด้านการรักษาความปลอดภัยประชาชน ได้ให้ความปลอดภัยเหมือนเดิม แต่เข้มงวดมากขึ้น ไม่ประมาท ในส่วนตู้เอทีเอ็มอาจต้องเพิ่มมาตรการมากขึ้น ให้ตู้อยู่ด้านในธนาคารแล้วจัดเวรยามดูแล ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องคุยทั้ง 3 ฝ่ายเพื่อหามาตรการในการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน