ไม่พบผลการค้นหา
เปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกรายงานตัวต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิคดีล่าสัตว์ทุ่งใหญ่ ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยันความเห็นเดิมพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องทุกข้อหา

ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คน พร้อมทนายความ เดินทางเข้ารายงานตัวต่อศาลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ได้รับการประกันตัวจากศาลไป ในวงเงินคนละ 1.5 แสนบาท ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2561รวมระยะเวลาจากวันแรก ที่ถูกเจ้าหน้าที่ส่งตัวดำเนินคดี เป็นเวลา 2 เดือน 3 วัน

นายเปรมชัย ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ มีเพียงทนายความที่กล่าวเพียงสั้นๆว่า "วันนี้นายเปรมชัยพร้อมพวกมารายงานตัวต่อศาล ไม่มีอะไรมาก" จากนั้นได้รีบเดินเข้าไปในที่ทำการศาล จ.ทองผาภูมิ

ต่อมา คณะของนายเปรมชัยเดินออกจากที่ทำการศาลจังหวัดทองผาภูมิ ซึ่งใช้เวลาขึ้นไปรายงานตัวต่อ ศาลประมาณ 30 นาที และรีบตรงไปขึ้นรถโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด มีเพียงนายวิทูล พรายแย้ม ทนายความกล่าวสั้น ๆ ว่า "วันนี้มารายงานตัวเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา" ซึ่งศาลนัดรายตัวครั้งต่อไป ผัดที่ 6 ครั้งที่ 3 ในวันที่ 18 เม.ย .2561 จากนั้นคนขับได้รีบขับรถออกจากศาลจ.ทองผาภูมิไปทันที

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา นางสมสรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 และคณะแถลงความคืบหน้าคดีนายเปรมชัย กับพวกรวม 4 คน ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก โดยมีคำสั่งฟ้องทั้งหมด 6 ข้อหา คือ ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยพา เอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำ ผิดกฎหมาย และร่วมกันเก็บหา ของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้ รับอนุญาต

และไม่สั่งฟ้อง 5 ข้อหา คือ ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วนลูกน้องทั้ง 3 คนที่เข้าป่าในวันเดียวกันกับนายเปรมชัย ถูกฟ้องและไม่ฟ้องข้อหาแตกต่างกันไป พร้อมเรียกค่าเสียหายให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนร่วมกันชดใช้เป็นจำนวน 462,000 บาท ส่วนการตีราคาเสือดำมูลค่าเกือบ 13 ล้านบาท ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชนั้นต้องให้กรมอุทยานฯฟ้องทางแพ่งเอง

ด้าน พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนยืนยันความเห็นเดิม คือ สั่งฟ้องทุกข้อหา โดยข้อหาร่วมกันพยายามล่าสัตว์ อัยการฟ้องบางราย ไม่ฟ้องบางราย ทั้งที่พนักงานสอบสวนระบุในสำนวนไปแล้วว่ามีการ แบ่งหน้าที่กันทำ เมื่อตำรวจยืนยัน ความเห็นสั่งฟ้อง ก็จะส่งให้อัยการสูงสุดชี้ขาด

รอง ผบ.ตร กล่าวต่อว่า ส่วนข้อหา ล่าสัตว์ป่าฯ ซึ่งเป็นข้อหาหลัก ที่ประชาชนแสดงความเป็นห่วง อัยการก็ได้สั่งฟ้องในข้อหานี้ การไม่ฟ้องบางข้อหาเป็นเรื่องปกติ ไม่ส่งผลกระทบต่อ 6 ข้อหา ที่อัยการมี ความเห็นสั่งฟ้องแต่อย่างใด