พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวถึงการไลฟ์สดของ นายสุเทพเทือก สุบรรณ ภายหลังจาก ป.ป.ช. ได้แจ้งข้อกล่าวหานายสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อครั้งดำรงรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการอนุมัติโครงการก่อสร้างแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ 163 แห่งทั่วประเทศ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคดีกล่าวหานายสุเทพ เทือกสุบรรณกับพวก กรณีทุจริตโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ หรือโรงพักทดแทน 396 แห่ง ว่า ในการแจ้งข้อกล่าวหา กับนายสุเทพ นั้น ทาง ป.ป.ช. ยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองในช่วงที่อยู่ระหว่างการจัดตั้งพรรคการเมืองและเตรียมเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง เพราะเป็นเรื่องที่เป็นไปตามกระบวนการของ ป.ป.ช. อยู่แล้ว
ส่วนเรื่องดังกล่าวจะเสร็จสิ้นก่อนที่การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวกัน เพราะกระบวนการของ ป.ป.ช. ไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อผู้ถูกกล่าวหามีการชี้แจงแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะนำข้อมูลที่ได้จากการชี้แจงมาวิเคราะห์ ประกอบพยานหลักฐาน จัดทำความเห็นและเข้าสู่องค์คณะไต่สวนเพื่อทำการวิเคราะห์พยานหลักฐานว่าจะต้องมีการไต่สวนเพิ่มเติมหรือไม่ จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะดำเนินการเสร็จสิ้นในช่วงเวลาใด
ทั้งนี้ ตามกระบวนการของ ป.ป.ช. เมื่อมาถึงขั้นตอนของการชี้แจงข้อกล่าวหาแล้ว ถือว่าอยู่ในขั้นตอนท้ายๆ ของการไต่สวน ซึ่งยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่มองว่าสาเหตุที่ได้รับความสนใจจากประชาชนเพราะอยู่ในขั้นตอนท้ายๆ ของการไต่สวน และไม่ได้มองว่าการที่นายสุเทพออกมาไลฟ์สดเกือบทุกวันและมีการพาดพิงถึง ป.ป.ช. ภายหลังจากที่ป.ป.ช.ตั้งข้อกล่าวหานั้น
"ไม่ได้เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือ หรือ ดิสเครดิต การทำงานของ ป.ป.ช. แต่อย่างใด ซึ่งมองว่ายิ่งมีเสียงติติงเข้ามา ป.ป.ช. ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังและรอบคอบในการทำงานมากขึ้น โดยทาง ป.ป.ช. จะไม่มีการดำเนินการในเรื่องใดเพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ของนายสุเทพที่สามารถกระทำได้" พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบนาฬิกาหรูของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งหนังสือไปถึงสถานทูตของประเทศผู้ผลิตนาฬิกา เพื่อให้ทางสถานทูตทำหนังสือขอรายละเอียดจากบริษัทผู้ผลิตอีกต่อหนึ่ง ซึ่งจะได้รับทราบคำตอบเมื่อใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับทางบริษัทผู้ผลิต ขณะที่การตรวจสอบจะสิ้นสุดเมื่อไหร่นั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการไต่สวนที่จะวินิจฉัย ภายหลังจากที่ได้พยานหลักฐานครบถ้วนและเพียงพอ