นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้ถือหุ้นธนาคารกรุงไทย ได้ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 51 เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เร่งรัดให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ โดยขอให้พิจารณาว่าจะกล่าวหาและสั่งฟ้อง พลเอกหนึ่งและพลเรือโทคนหนึ่ง กรณีปรากฏหลักฐานเส้นทางการเงินในคดีพิเศษที่ 36/2550 โดยเป็นบุคคลที่มีส่วนรับเงินกู้ จากธนาคารกรุงไทย ต่อจากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษจะสั่งฟ้องเช่นเดียวกับบุคคล ที่ได้สั่งฟ้องไปยังอัยการก่อนหน้านี้หรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบ พบข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่ามีเส้นทางการเงินที่ถูกสั่งจ่ายมาจากบุคคลเดียวกัน และบัญชีเดียวกัน 

นายเรืองไกร เห็นว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษจะต้องรวมบุคคลที่ได้รับเงิน จากการส่งต่อของนายวิชัย ไว้เป็นคดีพิเศษเดียวกัน ความยุติธรรมต้องมาพร้อมกัน เช่นเดียวกับ สำนวนคดีพิเศษที่ 36/2550 และ 25/2560 ไม่ควรแยกการตรวจสอบ บุคคลทั้งสอง ออกมาเป็นสำนวนสืบสวนเพิ่มเติม ที่ 253/2560 ตามที่ได้แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา