ไม่พบผลการค้นหา
มกุฎราชกุมารอัังกฤษและพระชายา เสด็จเยือนประเทศในแถบแอฟริกา รวมถึงกานา ซึ่งเจ้าชายทรงยอมรับว่าอังกฤษมีส่วนอย่างมากในการค้าทาสอันโหดร้ายในอดีต อังกฤษจะต้องไม่ลืมประวัติศาสตร์และไม่ปล่อยให้เกิดเหตุซ้ำรอย

เจ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษ พร้อมด้วยพระชายา คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ เสด็จเยือนสาธารณรัฐกานาเป็นเวลา 4 วัน และทรงร่วมการประชุมนานาชาติที่กรุงอักกรา ว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาประเทศเครือจักรภพอังกฤษ ซึ่งรวมถึงอดีตประเทศสมาชิกเครือจักรภพอย่างกานาด้วย

พระดำรัสตอนหนึ่งของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ระบุถึงความร่วมมือในการต่อต้านแรงงานทาสในโลกสมัยใหม่ ซึ่งเลวร้ายไม่ต่างจากการค้าทาสในอดีต และทรงยอมรับว่าอังกฤษมีบทบาทสำคัญในการค้าทาส เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในแถบยุโรป แม้ว่าอังกฤษจะเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวจนนำไปสู่การเลิกทาส แต่แนวคิดบางอย่างเรื่องทาสยังถูกส่งต่อมาจนถึงปัจจุบัน และประวัติศาสตร์อันโหดร้ายที่อังกฤษมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องไม่ลบเลือนไป และนานาชาติต้องร่วมมือกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

"ในขณะที่อังกฤษภาคภูมิใจว่าเคยเป็นผู้นำการเลิกทาสและยุติการค้าทาสอันน่าละอาย แต่เราก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าการค้าทาสอันโหดร้ายและน่าสังเวชนี้จะไม่ถูกลบเลือนไปจากประวัติศาสตร์"

"เราต้องร่วมกันต่อต้านการบังคับใช้แรงงานทาสในโลกยุคใหม่ ต้องสนับสนุนและปกป้องค่านิยมต่างๆ ซึ่งวันนี้เราไม่อาจเข้าใจว่าเพราะเหตุใดมนุษย์จึงปฏิบัติต่อกันอย่างไร้มนุษยธรรมเช่นนั้นได้ในอดีต"

AFP-เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์-ปรินซ์ชาร์ลส์-กานา

นอกจากนี้ เว็บไซต์เดอะการ์เดียน สื่อของอังกฤษ รายงานด้วยว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ได้เสด็จไปยังปราสาทคริสเตียนบอร์กในโอซู ซึ่งเคยเป็นสถานที่ค้าทาสที่สำคัญในอดีต และเป็นต้นตอที่ทำให้ชาวกานาและประชาชนในแถบแอฟริกาถูกขายไปเป็นทาสในอาณาจักรแถบยุโรปประมาณ 1.5 ล้านคนในอดีต ก่อนที่จะมีการประกาศเลิกทาสช่วง ค.ศ. 1807

การ์เดียนระบุว่า ราชอาณาจักรอังกฤษมีส่วนสำคัญในการค้าทาสและการขนส่งทาสข้ามทวีปเป็นเวลานานกว่า 200 ปี ทำให้ชาวแอฟริกันจำนวนมากถูกกดขี่และเผชิญกับความเจ็บปวดในฐานะ 'ทาส' และแม้ว่าอังกฤษจะเลิกทาสเป็นชาติแรกๆ แต่ก็ไม่มีการชดเชยหรือเยียวยาผู้ที่ตกเป็นทาส มีเพียงการจ่ายค่าชดเชยให้แก่นายทาสที่ต้องสูญเสียทาส ทั้งยังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์อีกมากมายที่บ่งชี้ว่า นายทาสในอังกฤษยังคงบังคับใช้แรงงานทาสต่อเนื่องมาอีกหลายชั่วอายุคนหลังจากที่มีการประกาศเลิกทาสไปแล้ว

ส่วนเทเลกราฟรายงานว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงได้รับคำชื่นชมจากรัฐบาลและประชาชนกานา ในฐานะที่พระองค์ตรัสถึงเรื่องทาสที่เป็นเหมือนรอยด่างในประวัติศาสตร์

ทั้งนี้ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์จะทรงมีพระชนมายุครบ 70 พรรษา ในวันที่ 14 พ.ย.นี้ หลังจากที่พระองค์ทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นมหาประมุขประเทศเครือจักรภพอังกฤษต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้พระดำรัสที่กานาของพระองค์ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ระหว่างอังกฤษและแอฟริกา

ที่มา: Guardian/ Ghana Web/ Telegraph

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: